Tag Archives: Whisky

Signatory Millennium Edition 1968 Caperdonich

Signatory Millennium Edition 1968 Caperdonich

Signatory Millennium Edition 1968 Caperdonich นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเลิศที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากฝีมือของแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Signatory ซึ่งเป็นผู้บรรจุวิสกี้อิสระชั้นนำของสกอตแลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 โดย Andrew Symington จากนั้นในปี 1992 ธุรกิจโรงกลั่นขยายตัวอย่างมากจนสามารถย้ายโรงกลั่นไปอยู่ในสถานที่ใหม่ที่มีความกว้างขวางมากกว่าเดิม โดยในสถานที่ใหม่นี้พวกเขาได้รับอนุญาตให้สามารถบรรจุวิสกี้ลงขวดได้ ในตอนแรกพวกเขาก็ได้จัดตั้งระบบบรรจุขวดขนาดเล็กขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่การบรรจุวิสกี้ลงในถังเดี่ยว

ถึงแม้ว่าการบรรจุวิสกี้ลงในขวดจะเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ แต่การให้ความสำคัญกับการปฏิบัติด้วยมือก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ โดยเฉพาะการใช้มือติดฉลากและบรรจุผลิตภัณฑ์ลงในแพ็คเกจต่างๆ เพื่อเพิ่มความพิเศษในการบรรจุขวด และในบางครั้งพวกเขาได้ระบุหมายเลขของถังบ่ม วันที่กลั่น รวมไปถึงวันที่ทำการบรรจุวิสกี้ลงขวด ไว้ในฉลากด้วย อีกทั้งวิสกี้แต่ละขวดก็จะมีหมายเลขกำกับ และยังถูกนับด้วยมืออีกด้วย หลังจากนั้นในปี 2002 Andrew Symington ได้ซื้อโรงกลั่น Edradour เมือง Perthshire ที่อยู่ในพื้นที่ Highland บริเวณภาคกลางของสกอตแลนด์ที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างมากในการผลิตวิสกี้ โดยที่ Highland นี้ก็เต็มไปด้วยโรงกลั่นกว่า 40 แห่งที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วพื้นที่ รวมไปถึงโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของสกอตแลนด์ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ด้วยเช่นกัน และสุดท้ายการดำเนินงานต่างๆภายในโรงกลั่นของเดิมก็ได้ย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่โรงกลั่น Edradour แทน

ในทุกๆการเปิดตัวสินค้าวางจำหน่ายใหม่ ก็จะมีวิสกี้กว่า 50 ชนิดที่ถูกจัดทำเป็นคอเล็กชั่นต่างๆ โดยเกือบทั้งหมดเป็นวิสกี้ที่ถูกสลักเลขปีเดียวกัน โดยช่วงมาตรฐานของวิสกี้คือวิสกี้จะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และบรรจุลงขวดที่ปริมาณของแอลกอฮอล์ 43% ในขณะที่คอเล็กชั่นวิสกี้ของ Cask Strength จะมีลักษณะเฉพาะของวิสกี้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และกลุ่มที่สามคือกลุ่มคอเล็กชั่นของ Un-chillfiltered ที่เป็นกลุ่มวิสกี้แบบซิงเกิลมอลต์ที่มีความเข้มข้น โดยในคอเล็กชั่นของกลุ่มนี้จะใช้วิธีการกรองวิสกี้แบบเย็นเพื่อควบคุมความขุ่นหมองของวิสกี้ ด้วยการกำจัดไขมันและน้ำมันที่พบได้ตามธรรมชาติของข้าวมอลต์ออกไป

โดยซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้ของ Signatory Vintage Millennium Edition Caperdonich 30 Year Old เป็นวิสกี้บรรจุขวดที่หายากที่ถูกกลั่นเมื่อปีค.ศ. 1968 และใช้ระยะเวลาในการบ่มถึง 30 ปี อีกทั้งยังมีจำนวนจำกัดเพียง 260 ขวดเท่านั้น โดยวิสกี้นี้เป็นวิสกี้ที่ถูกดึงออกมาจากถังหมายเลข 3560 และปริมาณแอลกอฮอล์ของวิสกี้ชนิดนี้อยู่ที่ 50.3% ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงพอสมควร อีกทั้งวิสกี้ชนิดนี้ยังมีกลิ่นหอมขององุ่น เหล้าส้ม และกลิ่นธูปอ่อนๆ อีกด้วย

Signatory Millennium Edition 1968 Caperdonich

Signatory Millennium Edition 1968 Caperdonich

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Balblair 69

Balblair 69

Balblair 69 นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาจากโรงกลั่น Balblair เป็นโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของสกอตแลนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1790 โดยคนท้องที่อย่าง John Ross ที่หมู่บ้านเอ็ดเดอร์ตัน ในทางเหนือของพื้นที่ Highland ประเทศสกอตแลนด์ และรายล้อมไปด้วยภูเขาที่สูงชัน

ในปีค.ศ.1836 John Ross ได้เสียชีวิตลง โรงกลั่น Balblair จึงส่งต่อให้กับลูกชายของเขาอย่างAndrew Ross เป็นผู้รับสืบทอดต่อ และในปีค.ศ.1872 Andrew Ross ก็ได้เปลี่ยนแปลงอาคารหลังเก่าให้กลายเป็นโกดังเก็บของแทน ในปีค.ศ.1911 โรงกลั่น Balblair ต้องยุติการผลิตลงเนื่องจากประสบปัญหาพิษเศรษฐกิจ จากนั้นในปีค.ศ.1948 โรงกลั่น Balblair ได้กลับมาผลิตเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 มาได้ภายใต้การดูแลของ Bertie อีกหนึ่งปีต่อมา Robert James Bertie ได้เข้าซื้อโรงกลั่น Balblair ด้วยเงินจำนวน 48,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,130,347.52 บาท ต่อมาความต้องการซื้อวิสกี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทำให้ James Bertie ตัดสินใจลงทุนเพิ่มในส่วนของโกดังเก็บของและหม้อต้มไอน้ำเครื่องแรก แต่เมื่อปีค.ศ.1970 James Bertie ก็ได้ขายโรงกลั่นให้กับชายที่ชื่อ Hiram Walker และตลอดทศวรรษที่ 1980 โรงกลั่น ก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างกว้างขวาง จวบจนปีค.ศ.1996 โรงกลั่น Balblair ก็ได้ถูกขายอีกครั้งให้กับ Inver House Distillers โดยตั้งแต่ปีค.ศ.2007 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เหล้าวิสกี้สไตล์วินเทจของ Balblair ที่ออกวางจำหน่ายทุกขวดจะมีเครื่องหมายของปีที่กลั่นระบุไว้

โดยวิสกี้ของ Balblair นั้นถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมความยึดมั่นของทุกๆคนในโรงกลั่น ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมที่ช่างฝีมือใช้ความอดทนและอุทิศตัวอย่างมากในการผลิตเพื่อให้ได้วิสกี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในขั้นตอนการหมักใช้เวลาถึง 36 ชั่วโมงซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานเป็นพิเศษ ประกอบกับการกลั่นที่ช้าเป็นพิเศษอีกกว่า 42 ชั่วโมง ด้วยกระบวนการผลิตที่ยาวนานนี้ทำให้พวกเข้าสามารถควบคุมเวลาเพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาได้ รวมไปถึงเครื่องหมายตัว Z ที่ถูกสลักลงไปบนขวด Balblair แต่ละขวด เพื่อเป็นการระลึกถึงประวัติศาสตร์ของความสมบูรณ์อันยาวนาน ตั้งแต่ข้าวบาร์เลย์ Black Isle ไปจนถึงสายน้ำที่ไหลผ่านไปยังหุบเขา Edderton เพื่อให้ได้สัมผัสถึงรสชาติของท้องถิ่นตามธรรมชาติ

โรงกลั่นวิสกี้จะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะที่ตั้งและที่มาของแหล่งน้ำ รวมไปถึงรูปทรงและไม้ประเภทต่างๆที่จะเป็นตัวกำหนดเอกลักษณ์ของวิสกี้ขึ้นมา โดยวิสกี้ของ Balblair เป็นวิสกี้แบบซิงเกิลมอลต์ (Single Malt) หรือเหล้าวิสกี้ที่มีความเข้มข้นมากที่สุดในโลก วิสกี้มอลต์สก็อตของ Balblair จะมีรูปแบบที่ซับซ้อนและน่าประทับใจ เริ่มต้นรสชาติด้วยลักษณะเด่นของผลแอพริคอท ส้ม เครื่องเทศ กลิ่นหอมของแอปเปิลเขียวและดอกไม้ และปิดท้ายด้วยความมันที่เข้มข้น ซึ่งวิสกี้ของ Balblair จะถูกบ่มอยู่ในถังไม้โอ๊กอเมริกัน และมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 41.4%

Balblair 69

Balblair 69

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Brora 1978 Aged 40 Years Old

Brora 1978 Aged 40 Years Old

Brora 1978 Aged 40 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Broraที่มีการก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1819 ภายใต้ชื่อ Clynelish ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเมือง Highland ประเทศสกอตแลนด์ โดยมาร์ควิสแห่งสตาฟฟอร์ด (Marquis of Stafford) และได้แต่งงานกับครอบครัวซัทเทอร์แลนด์ จนได้กลายเป็นดยุกคนแรกแห่งซัทเทอร์แลนด์ (Duke of Sutherland) เดิมทีโรงกลั่นแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อนำวิสกี้ท้องถิ่นออกมาจากผู้ค้าของเถื่อน ในปีค.ศ.1896 James Ainslie และ Heilbron ได้ร่วมกันสร้างโรงกลั่นที่เมืองกลาสโกว์ขึ้นมาใหม่

ต่อมาในปีค.ศ. 1967 โรงกลั่นที่สร้างขึ้นใหม่ก็ยังคงอยู่ภายใต้ชื่อของ Clynelish อยู่ โดยใช้ชื่อเป็น Clynelish B และให้โรงกลั่นโรงเก่าใช้ชื่อว่า Clynelish A ซึ่งโรงกลั่นแห่งใหม่อย่าง Clynelish B ได้ก่อตั้งขึ้นบนถนนที่ตัดผ่านโรงกลั่น Clynelish เดิม หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมาโรงกลั่น Clynelish B ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ และได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก Clynelish เป็น Brora ที่มีความหมายว่า สะพานข้ามแม่น้ำแทน หลังจากนั้นอีกสองปีต่อมา โรงกลั่น Clynelish A ก็ได้ปิดตัวลงในปีค.ศ. 1968 แต่ปิดตัวลงได้ไม่นานโรงกลั่น Clynelish A ก็ได้กลับมาเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งเนื่องจากความต้องการวิสกี้ที่ผลิตจากโรงกลั่นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยวิสกี้ชนิดใหม่นี้จะมีกลิ่นควันที่มากกว่าวิสกี้ชนิดก่อน ด้วยข้อแตกต่างของวิสกี้ที่ผลิตจากทั้งโรงกลั่น Clynelish A และ โรงกลั่น Clynelish B นี้ ทำให้กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตได้เรียกร้องให้โรงกลั่นทั้งสองแห่งนี้แยกตัวออกจากกัน จากนั้นในปีค.ศ.1983 โรงกลั่น Clynelish A ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Brora ก็ได้ปิดตัวลงอีกครั้งเนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลง ปัจจุบันอาคารของโรงกลั่น Brora ได้ถูกใช้เป็นโกดังเก็บของ และศูนย์รับรองแขกที่มาเยี่ยมชมโรงกลั่น Clynelish B ที่ยังเปิดให้บริการอยู่

โดยวิสกี้ของ Brora ได้ถูกบรรจุขวดและออกวางจำหน่ายอีกครั้งเมื่อปีค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1819 ขวดเท่านั้นจากวิสกี้ที่บ่มในถังไม้โอ๊กอเมริกันกว่า 15 ถัง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 200 ปีของโรงกลั่น ด้วยวิสกี้ถูกบ่มในถังไม้โอ๊กอเมริกันเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี โดยมีปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่  49.2 % และมีกลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้หวาน ผลมะเดื่อสุก กลิ่นควันไฟและกำมะถันอ่อนๆ พร้อมด้วยรสสัมผัสที่เรียบเนียนอ่อนนุ่มคล้ายขี้ผึ้งบางๆ และรสชาติความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้สีเข้มที่มีรสหวาน มะเดื่อแห้ง อินทผลัม ความเผ็ดจากพริกไทยขาวเล็กน้อย จากนั้นจึงตบท้ายด้วยกลิ่นควัน Peat อ่อนๆ หลังจากการวางจำหน่ายวิสกี้ในปีค.ศ. 2019แล้ว ทางบริษัท Diageo ได้กล่าวว่าโรงกลั่น Brora จะกลับมาเปิดตัวอีกครั้งในปีค.ศ. 2020

Brora 1978 Aged 40 Years Old

Brora 1978 Aged 40 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Bowmore 1973 43 Years Old

Bowmore 1973 43 Years Old

            Bowmore 1973 43 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมและได้รับความนิยมที่ได้รับการสร้างสรรค์และการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Bowmore ซึ่งเป็นแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังที่มีชื่อเสียงคุ้นหูกันในวงการเหล้าวิสกี้ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านหมู่เกาะ Islay ของประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ว่าทางผู้ผลิตเน้นการผลิตเหล้าวิสกี้ด้วยการอาศัยเวลาในการหมักมากกว่า เนื่องด้วยทางผู้ผลิตได้มีการเลือกนำเอาวัตถุดิบยอดนิยมและมีความเชี่ยวชาญในการผลิตอย่างมากอย่างข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่ใครหลายคนในวงการเหล้าวิสกี้ต่างล้วนเรียกชื่อวัตถุดิบนี้ว่า “เหล้าซิงเกิลมอลต์ (Single Malt)” โดยวัตถุดิบทั้งหมดที่ผ่านการเลือกสรรมานั้นทางผู้ผลิตจะนำไปหมักลงในถังไม่โอ๊กที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนเป็นจำนวน 6 ถังสุดท้ายที่มีการสร้างถังนี้มาตั้งแต่ในช่วงปี 1973 ด้วยกัน ซึ่งมีนักวิจารณ์และนักประวัติศาสตร์เหล้าวิสกี้ต่างล้วนคาดเดาว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้น่าจะถูกให้กำเนิดขึ้นมาในช่วงระหว่างวันที่ 10 เดือนพฤษภาคมปี 1973 จนถึงช่วงวันที่ 2 ของเดือนมิถุนายนของปีเดียวกัน

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีองค์ประกอบที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีลักษณะภายนอกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ โดยเริ่มต้นจากสีของเนื้อสัมผัสของเหล้าชนิดนี้ที่เป็นสีเหลืองทองอำพันสวยงาม บวกกันกับกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่มีองค์ประกอบที่โดดเด่น เช่น ขิง สับปะรด มะม่วงและต้นโอ๊กอย่างดี

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างดี มีทั้งความหวานในตัวเนื้อสัมผัสของเหล้าวิสกี้อย่างดี มีความโดดเด่นของขิง สับปะรด มะม่วงและต้นโอ๊ก นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 43.2% ซึ่งนับได้ว่าไม่ค่อยสูงมากเมื่อเทียบกับเหล้าวิสกี้ทั่วไป รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีปริมาตรของขวดอยู่ที่ 700 มิลลิลิตร และเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตและจำหน่ายแค่ปริมาณจำนวนที่จำกัดและมีอายุของเหล้ามากกว่า 30 ปีขึ้นไปด้วยกัน

Bowmore 1973 43 Years Old

Bowmore 1973 43 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Brora 30 Years Old

Brora 30 Years Old

Brora 30 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้อีกหนึ่งชนิดในกลุ่มเหล้าซิงเกืลมอลต์ที่จัดอยู่ในซีรีย์ของ Diageo Special Release 2007 อายุ 30 ปี ตัวนี้ จะมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 55.7% ปริมาตรสุทธิบรรจุที่ 700 มิลลิลิตรและ 750 มิลลิลิตร บรรจุลงขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2007 ผ่านกระบวนการหมักบ่มจากถังไม้สองชนิด ได้แก่ ถังไม้เชอร์รี่และถังไม้โอ๊กที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนชั้นเยี่ยม โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถูกผลิตออกมาในจำนวน 2958 ขวดเท่านั้น

กลิ่นของวิสกี้อายุ 30 ปีตัวนี้ สัมผัสแรกที่ได้กลิ่นทำให้เห็นภาพของฟาร์มขนาดใหญ่ ที่มีกลิ่นของใบหญ้าสด กลิ่นของคอกวัว เครื่องหนังแบบที่ใช้กับอานม้า กลิ่นหอมอ่อนๆ ของถ่านไม้ถ่านหิน และกลิ่นที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งคือกลิ่นของชีสนมแพะ ที่ปรากฏออกมาด้วย การเลือกกลิ่นของใบยาสูบกลิ่นหอมสดชื่นคล้ายกลิ่นลมทะเล มีกลิ่นที่ชัดเจนขึ้นของกลิ่นยาทาบรรเทาปวด (ยาหม่อง) ตามมาด้วยกลิ่นฟางแห้ง และมีกลิ่นของยีสต์เล็กน้อย แม้ตัวของวิสกี้จะมีสีเหลืองอ่อนคล้ายสีน้ำ Apple แต่ก็ไม่ได้มีกลิ่นรสที่ออกไปทางผลไม้หลากหลายชนิดที่มีจำนวนอยู่มากมายนัก น้ำเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วิสกี้ตัวนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมขึ้นและนำเอากลิ่นหวานแบบวานิลลาออกมาได้ชัดเจนขึ้นถือว่ามีเอกลักษณ์มาก

มาถึงรสชาติที่ได้จากการจิบวิสกี้ Brora สะพัดแรกรู้สึกว่าทรงพลังมาก มีกลิ่นหอมของเหล้าหวานที่ทำจากข้าว กลิ่นที่ฟุ้งอยู่ในปากค่อนข้างหอมมันและเข้มข้น มีกลิ่นของมัสตาร์ดเด่นชัดขึ้นมา ทิ้งช่วงสักครู่หนึ่งจะมีกลิ่นหอมแบบถ่านไม้รมควันขึ้นมา ตัวของน้ำวิสกี้ทำหน้าที่ดึงเอากลิ่นของ Appleออกมาได้อย่างดี ตามด้วยกลิ่นหอมเปรี้ยวแบบพายมะนาวและขิง

ปิดท้ายรสชาติของตัววิสกี้ ด้วยสัมผัสหอมหวานของเหล้าหวานที่ทำจากข้าว กลิ่นควันหอมแบบกล่องไฟและกลิ่นหอมเผ็ดร้อนของพริกไทยยังคงวนอยู่ในปากในช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะค่อยๆค่อยๆจางไป

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ Brora 30 Years Old ชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นวิสกี้ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง มีความเป็นเอกลักษณ์ค่อนข้างสูง และถ้าคุณเป็นคนที่นิยมวิสกี้แบบซีเรียสจริงจัง นี่คือตัวจบแน่นอน

Brora 30 Years Old

Brora 30 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Littlemill Private Cellar Edition 2015

Littlemill Private Cellar Edition 2015

Littlemill Private Cellar Edition 2015 นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ในกลุ่มเหล้าซิงเกิลมอลต์อายุ 25 ปี จากดินแดนด้านการผลิตเหล้าวิสกี้อย่าง Lowland ประเทศสกอตแลนด์ วิสกี้ตัวนี้บรรจุลงขวดจำหน่ายเมื่อปี 2015 วางจำหน่ายในซีรีย์ Private Cellar Edition กระบวนการหมักบ่มจากถังไม้ Oloroso Sherry cask ผลิตออกมาจำนวน 1500 ขวดทั่วโลก ปริมาณแอลกอฮอล์ 50.4% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติของวิสกี้อายุ 25 ปีตัวนี้ มีกลิ่นของผลไม้เขตร้อนปะปนอยู่ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยจนเกินไปนักกลิ่นของลูกกวาดรสส้ม ถั่ววอลนัท และกลิ่นของใบยาสูบ(แบบเคี้ยว)ลอยออกมาเตะจมูกมาก่อนใคร ตามมาด้วยกลิ่นของดาร์กช็อกโกแลตและกลิ่นเครื่องหนังฟอกใหม่ๆให้ความสดชื่นแบบหรูหรา กลิ่นหอมเปรี้ยวแบบเสาวรส องุ่นสีชมพู และส้มแมนดาริน ถ้าริงวิสกี้ใส่แก้วทิ้งไว้แบบนั้นสักครู่หนึ่งจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นแบบผลไม้หลากหลายชนิดที่มากขึ้น จนแทบจะฟุ้งเต็มห้องเลยก็ว่าได้

สัมผัสแรกเมื่อวิสกี้ได้ผ่านมาที่เพดานปาก มีกลิ่นของยาสูบนำมาก่อนค่อนข้างเด่นชัด และมีกลิ่นของมิ้นท์แซมมา สักครู่จึงจะปรากฏกลิ่นของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวต่างๆเช่นส้มแมนดารินและองุ่น ตามมาและให้ความสดชื่นเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้พอสมควร ซึ่งสวนทางกับอายุของตัววิสกี้มากเลยแต่ก็ถือว่ามีชีวิตชีวาดีเมื่อได้ลองชิม สัมผัสต่อมาในช่วงกลาง มีกลิ่นของไม้ปรากฏออกมาเคล้าไปกับกลิ่นหอมของชาดำอ่อนๆ

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าชนิดนี้จะจบรสชาติได้อย่างน่าประทับใจ รสชาติยังคงค้างอยู่ในปากระยะเวลาหนึ่ง แต่เปลี่ยนจากความหอมหวานในช่วงแรกกลายเป็นเข้มข้นขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังโอเคยังมีความสดชื่นหลงเหลืออยู่พอให้รู้สึกแบบแจ่มชัด

Littlemill Private Cellar Edition 2015

Littlemill Private Cellar Edition 2015

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Port Ellen 1981 Aged 33 Years Old Natural Cask Selection

Port Ellen 1981 Aged 33 Years Old Natural Cask Selection

Port Ellen 1981 Aged 33 Years Old Natural Cask Selection นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ในกลุ่มเหล้าซิงเกิลมอลต์ที่ถูกส่งตรงมาจากหมู่เกาะ Islay ของประเทศสกอตแลนด์ ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่า เป็นของหายากในวงการเหล้าสก๊อตวิสกี้เลยทีเดียวเพราะถูกผลิตออกมาเพียง 210 ขวดทั่วโลก โดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Diageo ซึ่งเหล้าวิสกี้อายุ 33 ปีตัวนี้ถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1981 บรรจุลงขวดเพื่อทำการจำหน่ายในปี 2015 ปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 50.5% ปริมาตรสุทธิบรรจุลงขวด 700 มิลลิลิตรความพิเศษของขั้นตอนการทำคือใช้ถังเดียว (Single Cask) ในการหมักบ่มทั้งกระบวนการ (Single hogshead #1295)

ถือเป็นหนึ่งขวดที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ Port Ellen ได้เอามาออกจำหน่าย และนักดื่มทุกท่านน่าจะต้องทวีความกลัวขึ้นไปอีกเมื่อได้รับทราบว่านี่คือหนึ่งในไม่กี่ขวดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสต๊อกของโรงกลั่นนี้ หลังจากโรงกลั่นถูกปิดไปในปี 1983 รายคุณก็ยังรอประกาศอย่างเป็นทางการในการเปิดโรงกลั่น ในตำนานนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่งเพราะทุกคนคาดหวังที่จะได้เห็นวิสกี้ที่โดดเด่นแบบนี้ถูกผลิตโดย Port Ellen อีกครั้ง และหากยังมีโอกาส Port Ellen 33 year old ตัวนี้ถือเป็นอีกความคุ้มค่า ไม่รู้ว่านักชิมทุกท่านจะได้มีโอกาสพบเจออีกหรือไม่

โดยคุณ Peter Fairbrother ผู้อำนวยการด้านการตลาดในระดับนานาชาติ (Global Marketing Director) ของ Diageo Global Travel and Middle East ได้กล่าวไว้ว่า เหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้ตัวนี้นับได้ว่าเป็นของที่หายากมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นมาก มีมูลค่าสูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลกนี้เลยก็ว่าได้ เป็นของดีที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่กี่ร้อยขวดในโลกนี้

ด้วยความหายากนี่เอง จึงเป็นที่ต้องการของนักวิจารณ์ทั้งหลายที่จะนำมาเขียนสาธยายถึงความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และรสชาติอันล้ำลึกที่ถูกกล่าวขานมาเนิ่นนาน แต่ก็แทบจะไม่มีใครเคยได้ลิ้มลองเลยสักครั้งในช่วงอายุของแต่ละท่าน มีเพียงคำบรรยายสั้นที่ถูกนิยามเอาไว้ว่า “นุ่มนวลลุ่มลึก เริ่มต้นด้วยความหวานก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็น ความสดชื่นแบบลมทะเลพัดเข้ามาข้างชายฝั่ง และตามลักษณะภายนอกของเหล้าเป็นแบบเครื่องเทศหอมหลงเหลืออยู่ก่อนจะค่อยๆค่อยๆจางไป” ด้วยการบรรยายเอาไว้แบบนี้ น่าจะคุ้มค่า หากว่ามีนักชิมท่านใดหามาลิ้มลองได้ในเร็ววัน

Port Ellen 1981 Aged 33 Years Old Natural Cask Selection

Port Ellen 1981 Aged 33 Years Old Natural Cask Selection

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Gordon & Macphail Private Collection Longmorn 1961

Gordon & Macphail Private Collection Longmorn 1961

Gordon & Macphail Private Collection Longmorn 1961 นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ประเภทเหล้าซิงเกิลมอลต์ โดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Gordon & MacPhail ที่ถูกผลิตขึ้นมาภายใต้ซีรีย์ Private Collection ด้วยอายุการหมักบ่มกว่า 58 ปี (เริ่มผลิตเมื่อปี 1961 และบรรจุลงขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2019 และมีการผลิตออกมาเพียง 137 ขวด ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ 44.4% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร ผลิตจากถัง First FillSsherry Hogshead นับเป็นวิสกี้ที่อายุมากที่สุด ที่ได้นำออกมาจำหน่ายในท้องตลาดในบรรดา Single malt whiskey ที่ผลิตภายใต้ชื่อของแบรนด์ Longmorn นับเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่จะได้ลิ้มรสชาติของวิสกี้ที่จัดได้ว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์

กลิ่นที่ได้จะวิสกี้ตัวนี้มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นแต่ไม่ได้รู้สึกว่าดีกรีจะแรงมากนัก ให้ความรู้สึกคลาสสิกเป็นพิเศษ ตามแบบฉบับวิสกี้เก่าแก่ มีกลิ่นหอมของลูกเกดและมะเดื่อเจือปนด้วยกลิ่นหอมของเชอร์รี่หมัก ตามด้วยชั้นความหอมของมิ้นท์และเปลือกส้ม กลิ่นหอมนวลๆของวานิลลาและเครื่องปรุงอาหารยอดนิยมที่มีชื่อว่า “มาร์ซิแพน” ที่น่าแนะนำและชวนให้ประหลาดใจ โดยเหล้าชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ด้วยคิดว่าน่าจะเป็นเบอร์รี่สีดำและผลเชอร์รี่ ตบท้ายความหอมด้วยกลิ่นของใบยาสูบและกลิ่นไหม้เกรียมของไม้โอ๊ก

ต่อมาในส่วนของรสชาติของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่มีสัมผัสแรกที่รู้สึกได้จากเพดานปากเลยก็คือความสดชื่นจากความหอมของผลส้ม Seville และมิ้นท์ผสมกับชั้นความหอมของกลิ่นตัวโน้ตแบบกลิ่นไม้ไหม้ หอมกลิ่นเอิร์ธโทนของเครื่องเทศและกลิ่นของดาร์คช็อกโกแลต เข้มข้นด้วยกลิ่นหอมของไม้โอ๊กจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ความหอมแบบรุนแรงจนเกินไป กลิ่นแบบที่ได้จากเหล้าหวานที่ทำจากข้าว วอลนัท แต้มด้วยกลิ่นที่ล้ำลึกของชาดำ

หลังจากที่ได้ดื่มแล้ว รสชาติยังคงค้างอยู่เป็นเวลานาน ให้ความรู้สึกที่ยังเข้มข้นมีกลิ่นหอมแบบใบไม้สดและมีกลิ่นของผลเบอร์รี่สีดำกับกลิ่นหอมของไม้โอ๊กไหม้ยังสะท้อนไปมาอยู่ในปากของเรา จบการดื่มไปแล้วก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นของผลไม้ที่เหมือนจะคายรสชาติออกมามากขึ้น ยังให้ความรู้สึกหอมสดชื่นอยู่เป็นเวลาเกือบชั่วโมง

Gordon & Macphail Private Collection Longmorn 1961

Gordon & Macphail Private Collection Longmorn 1961

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old นับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ในกลุ่มเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้จากแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Elixir Distillers (EID) ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ 46.2% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร อายุการหมักบ่ม 33 ปีในถังไม้อเมริกันโอ๊กและถังคอนแนค (cognac) บรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2020

ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกกล่าวขวัญถึงว่ามีความพิเศษเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลิ่นของมวลหมู่ดอกไม้ที่เหมือนนำเอาดอกไม้หอมทั้งแปลงมาบรรจุเอาไว้ในขวด และมีกลิ่นหอมของควันไม้เบาบาง กลิ่นของสมุนไพรบางอย่างและสุดท้ายเป็นกลิ่นหอมเบาเบาของน้ำหอม กลิ่นหอมของสมุนไพรเช่น ขมิ้นก็ปรากฏออกมา โดยภาพรวมแล้วนี่คือส่วนผสมของความหอมหวานและความเปรี้ยวในแบบที่เราจะได้จากเจลลีรสส้ม และจะได้กลิ่นคล้ายดอกไม้ผสมกับแยมเมื่อทิ้งช่วงวิสกี้เอาไว้สักพัก

นักชิมบางท่านได้กล่าวไว้ว่าหลังจากที่ได้ถือแก้วเอาไว้ จิบแล้วจิบเล่า ก็ยิ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจในรสชาติมากขึ้นในทุกๆการจิบนั้นและยกให้เป็นประสบการณ์ที่หายากยิ่งจากวิสกี้ตัวอื่น จะเริ่มด้วยรสชาติที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้แบบคาร์เนชั่นก็ไม่เชิง จากนั้นก็จะกลายเป็นกลิ่นของผลไม้นานาชนิดที่ถูกเจือเอาไว้ด้วยกลิ่นหอมของการรมควันไม้บางตัว สัมผัสที่อยู่ในช่องปากให้ความรู้สึกที่สบายลิ้นและไม่บาดคอ ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้และไม้ซีดาร์ลอยวนอยู่ในช่วงกลางของการดื่ม ในช่วงปลายของรสชาติจะรู้สึกได้ถึงความหวานความหอมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ความเปรี้ยวและหวานแบบส้ม ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบ

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะจบคงรสชาติจะมีกลิ่นเหมือนกลิ่นของโรสแมรี่ รวมกับกลีบดอกไม้สีม่วง กลิ่นอ่อนอ่อนของไม้โอ๊ก และให้สัมผัสแบบกลิ่นองุ่นสุกและแชมเปญ ถือว่าเป็นอันจบรสชาติที่น่าประทับใจในครั้งนี้เป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้คุณค่าเหมาะแก่การแนะนำและบอกต่ออย่างยิ่ง

Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special นับได้ว่าเป็นเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 43 ปีและมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ 50.4% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร บรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2018 จากแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Elixir Distillery หมักบ่มในถังไม้เชอร์รี่ (Sherry Butt) ตลอดช่วงอายุของมัน ดูได้จากสีสันคล้ายทับทิมอันสวยงามของตัววิสกี้ ถูกผลิตออกมาจำนวน 313 ขวด

กลิ่นแรกที่โดดเด่นและเตะจมูกเป็นกลิ่นคล้ายกลิ่นของควันดินปืน กลิ่นขมแบบที่ได้จากช็อกโกแลต กลิ่นของเนื้อวัวที่ถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำส้มสายชูดำบัลซามิก มีกลิ่นของสมุนไพรตามมาคู่กันกับกลิ่นของส้มที่ถูกสไลด์ที่ค่อนข้างมีความหนาแบบที่จะนำไปใช้ทำอาหาร กับกลิ่นของเหล้าวิสกี้ที่มีกานพลูกับกระวานผสมอยู่ในนั้น กลิ่นที่คล้ายกลิ่นคงเนื้อผสมกับกลิ่นของเครื่องเทศแบบเดียวที่เรารู้สึกได้กับกลิ่นของซาลามี่และพริกไทยดำ

เมื่อแรกลองจิบจะมีรสชาติของช็อกโกแลตผสมกับกลิ่นผลไม้เปรี้ยวและกลิ่นของเชอร์รี่ค่อนข้างเข้มข้นอยู่บนปลายลิ้นและค้างบนเพดานปากแบบรู้สึกได้ชัดเจน ตามด้วยเปลี่ยนที่เข้มข้นของเอสเปรสโซ่ที่ถูกผสมกับถั่ววอลนัท มีรสเผ็ดร้อนแบบพริกไทยอ่อน ความหวานเจือขมของเปลือกส้มแก่ และความหอมของใบยาสูบ เป็นรสชาติ ความขมที่นุ่มนวลคล้ายกับค็อกเทล Negroni ที่ถูกผสมมาอย่างดี จบด้วยรสชาติแบบผงลูกจันทน์คั่วอ่อน กลิ่นของส้มและกลิ่นของควันซิการ์ที่ค่อนข้างมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาอีกด้วย

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีองค์ประกอบที่งดงามเข้ากันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ที่ลงตัว สมดุล เริ่มต้นเหล้าชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยช็อกโกแลตและกานพลู กระวานและเครื่องเทศที่หลากหลายชนิดด้วยกันเป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นเดียวกัน

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com