Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

ไวน์ชนิดนี้ผลิตจากนาป้า วัลเลย์  (Napa Valley) ซึ่งอยู่ที่รัฐซาน ฟราซิสโก ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยทำมาจากองุ่น ที่มาจากการผสมจากหลากหลายพันธ์

คือ Cabernet Sauvignon 86%, Merlot 10%, Petit Verdot 2%,Cabernet Franc 1%,

Malbec 0.5% และ Syrah 0.5%โดยองุ่นนั้นได้ถูกเก็บเกี่ยวและ เรียงไว้อย่างรอบคอบในห้องใต้ดิน

โดยองุ่นทั้งหมดที่ใช้ในกรรมวิธีการผลิตไวน์นี้ จะต้องเกิดจากการคัดเลือกมาจากองุ่น

ที่มีคุณภาพมากที่สุดที่มาจากไร่องุ่น Oakville และไร่องุ่น  Wappo Hill เท่านั้น

โดย ก่อนที่จะมีเริ่มกระบวนการผลิตซึ่งจากการผสมผสานขององุ่นได้ผ่าน

การทดลองชิมมากกว่า 18  เดือนของอายุบาเรล โดยเป็นการนำลักษณะเฉพาะตัวของไวน์จากย่านชุมชน Napa Valley

ที่มืชื่อเสียงในการหมักไวน์มาหลายปี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีความดั้งเดิมแบบคลาสสิกและมีกลิ่นอายของ

ความดั้งเดิมแฝงอยู่อย่างสมบูรณ์และน่ามหัศจรรย์ และไวน์ชนิดนี้ได้เกิดจากการสร้างสรรค์และปรุงแต่ง

โดย Robert Mondavi นักปรุงไวน์ชื่อดังที่สร้างสรรค์ผลไวน์ไว้หลากหลาย

โดยเฉพาะไวน์ที่มาจากถิ่น Napa Valley แห่งนี้

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์แดงเข้ม สีประหนึ่งกับสีที่เข้มและข้นเหมือนกับสีของหมึกก็ว่าได้

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่หอมเหมือนกันกับไวน์แคสซิสที่เป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักลูกเกดดำ

ผสมรวมกันกับกลิ่นของบลูเบอร์รี่ที่รุนแรงและลุ่มลึก นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์

ที่มีรสสัมผัสอันรุนแรงจากแบลกเบอร์รี่ ลูกพลัม และผลไม้สีเข้ม รวมทั้งกลิ่นที่ซับซ้อนของเครื่องเทศ

สมุนไพร และเต็มไปด้วยความแน่นฉ่ำของผลไม้  นอกจากรสชาติเหล่านั้นแล้ว

ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติของที่หวานมากๆจากผลไม้สุกต่างๆ รวมทั้งยังมีรสสัมผัสของช็อกโกแลตที่

รวมตัวกันได้เป็นอย่างดี และทำให้ไวน์นี้มีความอบอุ่นที่ตราตรึงใจแก่เหล่านักดื่มทั้งหลายอีกด้วย

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเปรี้ยวที่เหมือนกับความเปรี้ยวจากสารเทนนินที่มาตัดกับรสของไวน์

ที่หวานมากได้อย่างลงตัว ทำให้ไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีแค่เพียงความหวานแต่อย่างเดียว โดยรวมแล้ว

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความนุ่มนวลและความรู้สึกที่ดีมากกว่าไวน์ทั้งหลายก็ว่าได้สำหรับเหล่านักดื่ม

หลายๆท่านที่ได้มีประสบการณ์สัมผัสกับไวน์ชนิดนี้ เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่เต็มเปี่ยม

รวมทั้งยังมีรสและกลิ่นอายที่ทันสมัยมากขึ้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ เมื่อดื่มไวน์ตัวนี้ คือ การรับประทานคู่กับ เนื้อแกะ เนื้อซี่โครงย่าง เนยแข็ง

เนื้อลูกวัวสับ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเนื้อ หมู เนื้อลูกแกะ เป็ด หรือเนื้อสัตว์ที่ได้มาจากการล่า

ต่างๆนั้นล้วนเป็นที่นิยมรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้อาหาร

จำพวกแฮมเบอร์เกอร์ บาร์บีคิว สตูเนื้อ หรืออาหารจากวัฒนธรรมพื้นบ้านเอเชียก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ที่จะรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้จากคำบอกเล่าของนักปรุงไวน์นี้ นอกจากนี้

ไวน์ชนิดนี้ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 16 – 18 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในการดื่มมากที่สุด

อยู่ที่ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ โดยความเย็นระดับนี้

จะช่วยให้ไวน์มีความสดมากที่สุด นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ควรถูกรินอยู่ในแก้วได้แค่ประมาณ 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในระดับ 14.5% อีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

 

Mouton Cadet Bordeaux

Mouton Cadet Bordeaux

                Mouton Cadet Bordeaux เป็นไวน์บอร์กโดซ์ที่ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส

มีปริมาณแอกอฮอล์ประมาณ 12% ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยทำมาจากองุ่นหลากหลายพันธ์

คือ Merlot65% ,CarbanetSayvignon 20% และ Cabernet Franc 15% โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการหมักองุ่น

ทั้งสามพันธุ์ลงในถังไม้ ทำให้ไวน์ชนิดนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ช่วงประมาณ 12-13% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้

ยังเกิดจากการรังสรรค์และการคิดค้นโดย Baron Philippe de Rothschild S.A.

มีชื่อเสียงในการออกแบบไวน์ระดับโลก

สีของไวน์จะเป็นสีแดงทับทิมไฮไลท์สีม่วงเงางาม ไวน์ตัวนี้เมื่อเปิดออกกลิ่นจะค่อนข้างแรง

และออกจะเผ็ดซักเล็กน้อย  อีกทั้งยังมีกลิ่นที่หอมและมีเสน่ห์มาจากผลเบอร์รี่สีแดงและสีดำ

ที่มาพร้อมกับกลิ่นของสะระแหน่และแยมสตรอว์เบอรร์รี่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ที่มิอาจลืมได้

ลงจากกลิ่นหอมของผลไม้ โดยเฉพาะกลิ่นของสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ รวมทั้งยังมีกลิ่นเข้มนิดๆอย่างกลิ่นของไวน์

สาเกมาช่วยตัดความหวานที่มาจากผลไม้ที่มาจากไวน์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ไวน์ยังมีกลิ่นเปรี้ยวหน่อยๆของเลม่อน

มาช่วยชูกลิ่นของไวน์ให้ดีขึ้นอีกด้วย โดยกลิ่นทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นเป็นกลิ่นที่ผสมรวมกันได้อย่างสมดุลและลงตัว

นอกจากนั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีการเพิ่มพริกไทยลงไปเพื่อเสริมความเผ็ดและฉุนให้แก่ตัวไวน์แทนที่

จะมีการใส่เครื่องเทศจำพวกอบเชยอย่างที่ไวน์ทั่วไปเป็น

ด้วยโครงสร้างที่ดีของไวน์ตัวนี้ ประกอบกับการสัมผัสรสที่มีเทกเจอร์ที่หลากหลาย

กลมกล่อม แต่กลับสมดุลอย่างน่าประหลาดใจ และยังอุดมไปด้วยผลไม้ที่เน้นรสสัมผัสของชะเอม

ด้วยสัมผัสที่นุ่มลึกยาวนานทำให้ได้รับรสที่รู้สึกถึงความแตกต่างของผลเบอร์รี่รสชาติต่างๆ

นอกจากความสมดุลของไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นความงดงามแล้ว ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเข้มแข็ง นุ่มนวล

และความตรงไปตรงมาของรสชาติเป็นอย่างดี โดยรสชาติและกลิ่นของไวน์ชนิดนี้มีความเหมือนกันเป็นอย่างมาก

ด้วยรสสัมผัสของผลไม้จำพวกเบอร์รี่ โดยเฉพาะผลไม้สีแดงต่างๆที่มีทำให้ไวน์ชนิดนี้มีเสน่ห์และมีความร่วมสมัย

นอกจากนี้ไวน์ยังมีกลิ่นอายของความคลาสสิกนิดๆจากการเติมเครื่องเทศลงไปเล็กน้อย

เพื่อเพิ่มให้ไวน์ชนิดนี้มีความสดใหม่ รวมทั้งยังมีรสของสมุนไพรมาตัดรสชาติหลักทำให้ไวน์ชนิดนี้

มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นยาวนานมากยิ่งขึ้น และยังคงเอกลักษณ์ของไวน์ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

เพื่อความสมบูรณ์แบบ ไวน์ตัวนี้ เมื่อดื่ม ควรเติมเต็มด้วยการรับประทานคู่กับ

เนื้อกวาง กระต่าย เป็ด และ เนื้อลูกวัว กับ ซอสเห็ด รวมถึง ปลาทูน่าในซอสไวน์และเนื้อแกะกับผัก

รวมทั้งอาหารญี่ปุ่นอย่างเช่นซูชิก็สามารถทานควบคู่ได้ด้วยเหมือนกัน นอกจากอาหารคาวที่เหมาะสม

ในการรับประทานคู่กับไวน์ชนิดนี้แล้ว ขนมหวานบางชนิดก็มีความเหมาะสมที่จะรับประทานควบคู่กับไวน์เช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นขนมทาร์ตรสราสเบอร์รี่หรือขนมญึ่ปุ่นบางชนิด อีกทั้งควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 17-19 องศาเซลเซียส

และไวน์นี้จะมีรสชาติและกลิ่นที่ดีมากยิ่งขึ้นเมื่อไวน์นี้อยู่ในอุณหภูมิที่ 8-10 องศาเซลเซียส

Mouton Cadet Bordeaux
Mouton Cadet Bordeaux

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Trapiche Medalla Cabernet Sauvignon

ไวน์ Trapiche Medalla Cabernet Sauvignon เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดจากเมือง Mendoza

ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในประเทศอาร์เจนติน่า โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ระดับโลก

โดยไวน์ชนิดนี้ได้มีการใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 100% เท่านั้น

โดยองุ่นที่มีต้นกำเนิดจากไร่องุ่นในชุมชนย่าน Cruz de Piedra และ Luján de Cuyo

ซึ่งทั้งสองแห่งนั้นอยู่ในจังหวัด Mendoza ประเทศอาร์เจนติน่า

โดยไวน์ชนิดนี้มีกรรมวิธีในการผลิตที่นำองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon

เท่านั้นมาคัดเลือกโดยเอาพันธุ์และผลที่ดีเยี่ยมและมีคุณภาพสูงสุดมาใช้ในการหมักลงในถังโอ้ก

จากฝรั่งเศสอย่างดี โดยให้เวลาในการหมักยาวนานกว่า 18 เดือนเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติของไวน์ให้ดีเยี่ยมดีขึ้น

หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะเริ่มมีกลิ่นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยสีของไวน์ชนิดนี้จะมีสีที่แดงเข้มผสมรวมกัน

กับสีม่วงที่หลอมรวมกันอย่างดี เป็นเนื้อเดียวกัน รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หอมมาก เป็นกลิ่นที่อุดมไปด้วยกลิ่นของแยมลูกพลัม

กลิ่นของพริกเขียว ลูกเกด กลิ่นของใบยาสูบ และกลิ่นของต้นโอ้ก

ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นรวมกันอย่างสมดุลและทำให้รสชาติของไวน์ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสมีทั้งความหวานและความเผ็ดฉุนจางๆของกานพูและพริกไทยดำเล็กน้อย

มีรสชาติที่หอมหวานมาจากรสสัมผัสของผลไม้สีดำต่างๆ ทั้งไวน์ที่หมักจากลูกเกดดำ

รสชาติของพริกไทย รสของลูกพลัม กาแฟและช็อกโกแลตอีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้มีความหวาน เผ็ดฉุน และขมที่ผสมรวมกันได้อย่างลงตัวทั้งรสชาติและกลิ่น

ทำให้ไวน์ชนิดนี้มัสัมผัสที่น่าดึงดูด มีเสน่ห์ มีความสดใหม่และมีความสมบูรณ์แบบได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

โดยไวน์ชนิดนี้มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

ที่จะดื่มควบคู่กับการรับประทานคู่กับเนื้อสเต๊กต่างๆ ชีส และพาสต้าที่ใส่เครื่องเทศต่างๆ

 

Trapiche
Trapiche

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

ไวน์ Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดในการผลิตมาจากเมือง Monterey County ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพียงชนิดเดียว

โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการรังสรรค์มาจากนักปรุงไวน์ชื่อดังนามว่า Robert Mondavi

ผู้ที่กำเนิดมาจากชุมชน Oakville ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยนักปรุงไวน์คนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่ออกแบบไวน์หลายชนิดที่มาจาก Napa Valley

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีมีอายุของไวน์ยาวนานเพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น

โดยการหมักครั้งนี้จะต้องใช้การหมักในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยใช้อัตราส่วนขององุ่นในปริมาณมาก

และวัตถุดิบอื่นๆใส่ในถังหมักในปริมาณน้อย โดยในการหมักไวน์นี้

จะใช้การหมักลงในถังโอ้กจากอเมริกาชั้นดีที่ใช้ในการหมักไวน์เบอร์บอน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีแดงเข้มเหมือนกันกับสีของทับทิม และเมื่อเปิดขวดไวน์ออกมาก็จะพบว่ากลิ่นไวน์

นี้จะเป็นกลิ่นที่เหมือนกันกับกลิ่นของไวน์วิสกี้เบอร์บอนแบบดั้งเดม เนื่องมาจากกรรมวิธีในการผลิตไวน์นี้คล้ายคลึง

กับกรรมวิธีในการผลิตไวน์เบอร์บอน โดยกลิ่นที่นักดื่มจะได้คือกลิ่นของขนมหวานที่ทำมาจากแบล็กเบอร์รี่

รวมทั้งกลิ่นดาร์กเบอร์รี่ กลิ่นของแป้งที่ใช้ทำขนมแคร็กเกอร์ กลิ่นของน้พตาลทราย วานิลลา นมช็อกโกแลต

กลิ่นโอ้กย่าง กลิ่นกาแฟและกลิ่นรมควันจางๆ

นอกจากกลิ่นแล้ว รสชาติของไวน์นี้ก็นับได้ว่าเป็นรสชาติที่เหมือนกันกับกลิ่นอย่างมาก

เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสของแบล็กเบอร์รี่ พายบลูเบอร์รี่ ขนมถั่วเคลือบคาราเมล

รสหวานจากน้ำตาลทรายแดง คาราเมล กาแฟโมคาและรสของควันจากการรมควัน

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีเยี่ยม

มีทั้งกลิ่นอายและรสชาติเหมือนกันกับไวน์เบอร์บอน และเป็นไวน์ที่เหมาะมากที่ดื่มควบคู่ไปกับการรับประทาน

กับซี่โครงย่างรมควัน ขนมปังกับแฮม พาสต้าและการรับประทานอาหารนอกบ้าน

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ 14.5%

Robert Mondavi
Robert Mondavi

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

 

 

Penfolds – Max’s Shiraz Cabernet

Penfolds – Max’s Shiraz Cabernet

ไวน์ Penfolds – Max’s Shiraz Cabernet เป็นไวน์ที่มีความพิเศษมากกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ

โดยไวน์ชนิดนี้มีต้นกำเนิดในหลากหลายสถานที่

ได้แก่ McLaren Vale, Wrattonbully, Padthaway, Langhorne Creek และ Barossa Valley

โดยทุกชนชนนั้นล้วนอยู่ในดินแดนทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไม่เหมือนกันกับไวน์ชนิดอื่นๆ

ที่มีต้นกำเนิดเพียงที่เดียวเท่านั้น โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการรวมกันขององุ่นสองพันธุ์

ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Shiraz และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon โดยผสมในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน

ด้วยการใช้อัตราส่วน Shiraz 77% และ Cabernet Sauvignon 23%

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกรรมวิธีในการหมักที่ค่อนข้างยาวนาน แต่เรียบง่ายกว่า

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการหมักประมาณ 12 เดือน

ซึ่งจะต้องใช้ถังในการหมักทั้งหมดสามถัง

ได้แก่ ถังโอ้กฝรั่งเศส ถังโอ้กตามฤดูกาลของฝรั่งเศส และถังโอ้กพนธุ์ดีจากอเมริกา

โดยทั้งสามถังได้ใช้ในการหมักอย่างสมดุลและลงตัว โดยไวน์ชนิดนี้จะต้องมีการหมักในสภาพอากาศที่หนาวและแห้ง

ไม่ชื้น ซึ่งฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหมักไวน์ชนิดนี้ได้แก่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและช่วงฤดูหนาว

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีที่ผสมกันระหว่างสีแดงเข้มและสีแดงม่วง

โดยสีข้างในจะค่อนข้างทึบและสีขอบของไวน์จะสว่าง

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่เหมือนกันกับกลิ่นของหินบลูสโตน

แผ่นและกลิ่นของเหล็กแทบจะทันที่เมื่อเปิดขวด

โดยกลิ่นขององุ่น Cabernet ก็จะโดดเด่นด้วยเช่นกัน ด้วยการทำให้ไวน์มีกลิ่นที่หวาน

นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของช็อกโกแลต ราสเบอร์รี่ และกลิ่นของผลไม้ที่มีสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน

นอกจากกลิ่นแล้ว รสชาติของไวน์ชนิดนี้ก็มีความเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้มีรสชาติที่คงที่

ไม่เปลี่ยนแปลงมาก รวมทั้งยังมีรสสัมผัสที่กลมกล่อมและเติมเต็มไปด้วยรสของบลูเบอร์รี่ และรสของมัลเบอร์รี่หรือต้นหม่อน

โดยรวมแล้ว นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่หอมหวาน

แต่เป็นความหวานที่ไม่ได้มาจากผลไม้เพียงอย่างเดียว แต่มาจากความหวานที่คล้ายคลึงกับสาหร่ายหวานนิดๆด้วย

นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมในทุกโอกาสและสามารถดื่มได้ตลอดเวลา

โดยไวน์ชนิดนี้มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5%

 

Max's
Max’s

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

 

 

Kaiken Ultra Cabernet Sauvignon

Kaiken Ultra Cabernet Sauvignon

ไวน์ Kaiken Ultra Cabernet Sauvignon เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดมาจากชุมชนเมือง Luján de Cuyo

ในจังหวัด Mendoza ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดของประเทศอาร์เจนติน่า โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ใช้องุ่นสองพันธุ์มาเป็นวัตถุดิบหลัก

ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon และองุ่นพันธุ์ Malbec โดยใช้องุ่นทั้งสองพันธุ์นี้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน

โดยไวน์นี้ได้ใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 95% และใช้องุ่นพันธุ์ Malbec อีก 5% โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เกิดจาก

การรังสรรค์โดย Aurelio Montes Baseden นักปรุงไวน์ชาวอาร์เจนติน่า

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกรรมวิธีในการผลิตที่มีคุณภาพ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ใช้วัตถุดิบทั้งองุ่นและผลไม้อื่นๆ

มาจากไร่องุ่น Vistalba เท่านั้น ซึ่งเป็นไร่องุ่นที่มีอายุมายานานกว่า 80 ปี รวมทั้งยังมีการคัดเลือกองุ่นที่มีคุณภาพสูง

ที่สุดมาใช้เท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้มีการนำองุ่นที่ได้มาจากการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

รวมทั้งยังมีการหมักลงในถังโอ้กฝรั่งเศส โดยจะหมักไว้เพียงสองในสามของถังเท่านั้น จะเริ่มมีการหมักในช่วงเดือนมีนาคม

เนื่องจากเป็นช่วงที่สภาพอากาศและอุณหภูมิที่ดีที่สุดในการหมัก จนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีแดงราวกับสีของทับทิม และไวน์ชนิดนี้จะเป็นไว

น์ที่มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยและมีความซับซ้อน

รวมทั้งยังมีกลิ่นที่แสดงถึงกลิ่นของเชร์รี่ดำ ลูกพรุน สตอว์เบอร์รี่

กลิ่นใบยาสูบและกลิ่นของเครื่องเทศที่ผสมรวมกันกับกลิ่นของวานิลลาจางๆ

นอกจากกลิ่นแล้ว รสชาติของไวน์นี้ก็มีความซับซ้อนไม่แตกต่างกัน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติที่แน่น เข้มข้น เต็มปากเต็มคำ

โดยรสชาติที่ได้จากไวน์นี้ได้รับมากจากรสสัมผัสของลูกพลัม เรดเคอร์แรน และรสของกาแฟโมคาจางๆ

โดยรวมแล้ว นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% นอกจากนี้

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมกับทุกเทศกาลได้อย่างดี

 

 Kaiken
Kaiken

 

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Beaulieu Vineyard (BV) Cabernet Sauvignon

Beaulieu Vineyard (BV) Cabernet Sauvignon

ไวน์ Vineyard (BV) Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชนิดหนึ่งที่เป็นไวน์

ที่เกิดจากการนำองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon เป็นวัตถุดิบหลักในกรรมวิธีในการผลิต โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดมา

จากหมู่บ้านนาปา (Napa Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เกิดจากการรังสรรค์

และการหล่อหลอมความคิดมาจาก Jaffrey Stambor นักปรุงไวน์ชื่อดังจากดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโอไฮโอ้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกกรมวิธีการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน โดยเริ่มจากการคัดเลือกองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon

และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ตัดเอาก้านออกทั้งหมดแล้ว โดยวัตถุดิบที่เลือกนั้นจะต้องใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุดเท่านั้น

หลังจากนั้นก็จะนำวัตถุดิบทั้งหมดนั้นแช่ลงในน้ำที่เย็นจัด ก่อนที่จะนำลงในถังหมัก

โดยในช่วงแรกนั้นจะนำวัตถุดิบหมักลงในถังไม้โอ้กฝรั่งเศสใบใหม่เท่านั้น เพื่อเพิ่มอายุให้กับไวน์ให้มากขึ้นอีกด้วย

โดยไวน์นี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและสีที่เป็นเอกลักษณ์และมีความเป็น cabernet Sauvignon อย่างชัดเจน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของไวน์ที่เป็นสีม่วงเข้มเหมือนกับสีของแร่โกเมน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่หอม

และโดดเด่นมาจากองุ่นอย่างเข้มข้น  เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนั้นก็จะมีกลิ่นของผลไม้ชนิดอื่นๆด้วย

ทั้งกลิ่นของแบล็กเบอร์รี่ กลิ่นของเชอร์รี่ กลิ่นของแบล็อกเคอร์แรน และกลิ่นของลูกพลัมจางๆ

นอกจากกลิ่นที่หอมหวานและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว รสชาติก็นับได้ว่ามีความแปลกใหม่เช่นเดียวกัน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่งดงามและแบ่งออกเป็นชั้นๆอย่างชัดเจน โดยในชั้นแรกหรือช่วงแรกนั้น

นักดื่มจะได้รับรสชาติที่หวานจากรสสัมผัสของแบล็กเบอร์รี่ เชอร์รี่ แบล็อกเคอร์แรน และลูกพลัม หลังจากนั้น

รสชาติจะเริ่มทยอยเปลี่ยนเข้าสู่ชั้นที่สองที่เริ่มมีความเผ็ดฉุนจากเครื่องเทศและต้นโอ้ก

ซึ่งทั้งสองชั้นนั้นเป็นรสชาติที่มีความสมดุลกันได้เป็นอย่างดี

โดยรวมแล้ว ไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่สร้างความสดใหม่และความมีชีวิตชีวาให้แก่นักดื่มทั้งหลาย

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีอายุยาวนานกว่า 20 ปี รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสำหรับดื่มในงานสังสรรค์ต่างๆ

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.8% เพียงเท่านั้น

Beaulieu Vineyard
Beaulieu Vineyard
สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Rawson’s Retreat Shiraz Cabernez

Rawson’s Retreat Shiraz Cabernez

`ไวน์ Rawson’s Retreat Shiraz/Cabernez เป็นไวน์แดงชนิดหนึ่งที่

มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักจากองุ่นแดง โดยใช้องุ่นพันธุ์   Shiraz และ  Cabernet Sauvignon

ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน โดยไวน์ชนิดนี้จะใช้องุ่นพันธุ์ Shiraz 52% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon

ที่ 48% โดยไวน์ชนิดนี้ เป็นไวน์ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของ Pat Connors เป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เพียง 13.5%

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกรรมวิธีหมักที่แตกต่างจากไวน์ชนิดอื่นๆ โดยไวน์ชนิดนี้จะต้องมีการคัดเลือกองุ่นที่มาใช้

โดยจะต้องเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีเท่านั้น

โดยไวน์นี้จะเกิดจากการหมักในถังโอ้กฝรั่งเศสและถังโอ้กอเมริกัน และใช้เหล็อกสแตนเลสในการหมักอีกด้วย

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีแดงเข้มสว่างที่ผสมรวมกันกับสีม่วงสว่าง โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น

ที่หอมและเต็มเปี่ยมไปด้วยแบล็อกเคอร์แรน รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์แคสซิสที่ที่เป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักลูกเกดดำจางๆ

รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หอมจากลูกพลัมและเชอร์รี่ดำ รวมทั้งยังมีกลิ่นหญ้าจางๆด้วย นอกจากนี้

ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของพืชที่ใช้ในการแต่งรสอย่าง Aniseed และอบเชยที่ยิ่งเพิ่มให้ไวน์นี้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนของรสชาตินั้น ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่อุดมไปด้วยความหวานของผลไม้ที่โลดแล่นเพื่อลิ้มลองรสที่งดงาม

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เต็มไปด้วยรสสัมผัสของบลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และต้นไวโอเลต นอกจากนี้ยังมีรสชาติของเหล่า

ผลไม้สีดำที่หลอมรวมกับความเผ็ดและหวานนิดๆของๆเครื่องเทศ โดยเฉพาะต้นโอ้ก นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้

ยังมีรสสัมผัสที่เบาบางและนุ่มนวลลิ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่กลมกล่อม

มีรสชาติที่สมดุลกันมาก ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติของวัตถุดิบต่างๆ

โดยรวมแล้ว นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นอายที่มีความดั้งเดิมแบบคลาสสิกได้เป็นอย่างดี

เป็นไวน์ที่มีความสดใหม่ในรสชาติ รวมทั้งมีการใช้วัตถุดิบที่สดมาจากไร่องุ่นทั้งหมด

และเป็นไวน์ที่สามารถดื่มได้เรื่อยๆทุกวัน อย่างเช่นชาวออสเตรเลีย

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานเนื้อสเต๊กกับพาสต้าควบคู่กับไวน์ชนิดนี้อีกด้วย

 

 Rawson's Retreat Shiraz Cabernet
Rawson’s Retreat Shiraz Cabernet

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Glenlivet Nadurra First Fill Batch

Glenlivet Nadurra First Fill Batch

                Glenlivet Nadurra First Fill Batch เป็นเหล้ายอดเยี่ยมชนิดหนึ่งในกลุ่มเหล้าตระกูล Nadurra

ที่เกิดจากกลั่นในถังธรรมชาติที่แตก เป็นวิสกี้ที่มีการเลือกเติมกรรมวิธี First fill selection

มีการวางจำหน่ายเป็น limited edition ในปี 2015 เป็นเหล้าสก็อตซ์ที่เป็นเอกลักษณ์

มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างเข้มข้น โดยอยู่ที่ประมาณ 59.1%

 

                เหล้าชนิดนี้มีกลิ่นที่มีความเป็นเย็นจากน้ำแข็งบดและมีส่วนเพิ่มเติมจาก

มะพร้าว วานิลลา ครีม และกลิ่นคัสตาร์ด  นอกจากนี้

นักดื่มทั้งหลายอาจะได้รับกลิ่นจากกล้วยและเยลลี่บางส่วนด้วย

 

                ในเรื่องของรสชาตินั้น เหล้าชนิดนี้จะมีความแรงและเข้มข้นเป็นอย่างมากในช่วงคำแรก

หลังจากนั้นรสชาติก็จะค่อยๆดีขึ้น และเริ่มหวานขึ้นจากการหมักโอ้ก มีรสชาติเพิ่มเติมมาจากคัสตาร์ด

น้ำตาลไซตรัส และเหล้าชนิดนี้มีผลทำให้เกิดความสดชื่นได้อีกด้วย

 

                เหล้าชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีรสชาติแบบ “การไต่ลำดับ”

โดยจะรุนแรงในช่วงแรกและเริ่มหวานขึ้นเรื่อยๆในช่วงท้าย รสชาติโดยรวมนั้นมีความหวานเล็กน้อย

มีเอกลักษณ์จากกลิ่นและรสสัมผัสของวานิลลา และมีกลิ่นไม้จากเขตอบอุ่นกับเครื่องเทศเล็กน้อย

ซึ่งรสชาติประเภทนี้มักจะพบได้ในเหล้าเบอร์เบินเก่าแก่มากกว่า 16 ปีขึ้นไปเท่านั้น

Glenlivet Nadurra First Fill Batch
Glenlivet Nadurra First Fill Batch

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Glenlivet 21 Year Old Archive

Glenlivet 21 Year Old Archive

                Glenlivet 21 Year Old Archive เป็นเหล้าที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง

จากการแข่งขันการประกวดเหล้าระดับนานาชาติในปี 2005-2007 เป็นเวลา 3 ปีซ้อน

ที่รัฐซาน ฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเหล้าที่ต้องใช้เวลาในการหมัก

แต่ละครั้งยาวนานกว่า 21 ปี โดยเหล้าชนิดนี้มีประมาณระดับแอลกอฮอล์อยู่ที่ 43%

 

                โดยกลิ่นของเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่เบาบางและมีความเป็นผลไม้สูงมาก

มีกลิ่นของน้ำตาลไซตรัส มะนาว ส้ม และกลิ่นจากดอกไม้ นอกจากนี้

ยังมีกลิ่นเสริมเพิ่มเติมมาจากการหมักในถังโอ้ก รวมถึงมีการผสมเครื่องเทศและน้ำผึ้งจางๆ

เพื่อไม่ให้มีแต่กลิ่นธรรมชาติมากจนเกินไป

 

                นอกจากกลิ่นที่หอมหวาน เป็นธรรมชาติแล้ว

รสชาติของเหล้านี้ก็มีความเป็นมอลต์และน้ำผึ้งชัดเจน นอกจากส่วนผสมทั้งสองอย่าง

ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเหล้านี้แล้ว ส้มก็ถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในเหล้านี้ด้วย

เหล้านี้ได้มีส่วนที่เพิ่มเติมจากขิง เครื่องเทศ อบเชย และโอ้กเปรี้ยว

 

                เหล้านี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก

มีความนุ่มติดลิ้นยาวนาน มีส่วนที่เน้นในความหวานจากน้ำตาลไซตรัส จากกลิ่นไม้จางๆ จากดาร์ก

ช็อกโกแลต และอบเชย นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีรสชาติสมดุลและครบเครื่อง

ความเปรี้ยว หวาน เผ็ดและขมช่วยหลอมหลวมวัตถุดิบทั้งหลายให้กลายเป็นเหล้าชนิดนี้

The Glenlivet 21 Year Archive
The Glenlivet 21 Year Archive

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
error: Content is protected !!