The Ardmore Port Wood Finish

The Ardmore Port Wood Finish

The Ardmore Port Wood Finish

The Ardmore Port Wood Finish นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ยอดนิยมที่มีการผลิตขึ้นมาโดยโรงกลั่น Ardmore ซึ่งได้มีการก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1898 โดย Adam Teacher ลูกชายของผู้ผสมวิสกี้แห่งเมือง Glasgow อย่าง William Teacher ตระกูล Teacher นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตระกูลวิสกี้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในสกอตแลนด์ โดยพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะก่อตั้งธุรกิจโรงกลั่นของตัวเองขึ้นมา สถานที่ที่พวกเขาได้เลือกไว้คือบริเวณชานเมืองของหมู่บ้าน Kennethmont ในที่ดินสำหรับทำการเกษตรของเพื่อนเขาที่ Aberdeenshire เนื่องจากบริเวณนั้นมีแหล่งน้ำและถ่านหินเลน (Peat) อยู่เยอะ อีกทั้งรอบๆยังเต็มไปด้วยข้าวบาร์เลย์ที่กำลังออกรวงอยู่ นอกจากนี้โรงกลั่นยังมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟสายเหนือ และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 600 ฟุตเลยทีเดียว

ด้วยที่ตั้งของโรงกลั่นที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ทำให้โรงกลั่น Ardmore สามารถขนส่งวัสดุต่างๆจากเมือง Glasgow มายัง Aberdeenshire ได้อย่างเช่น วัว ถัง และวิสกี้ชนิดต่างๆ เป็นต้น ด้วยความสามารถในการขนส่งนี้ทำให้โรงกลั่น Ardmore เจริญรุ่งเรืองขึ้น จากนั้นในปีค.ศ.1976 Ardmore ก็ได้รวมบริษัทกับโรงกลั่น Allied ต่อมาเมื่อโรงกลั่น Allied ได้ถอนตัวออกไปในปีค.ศ. 2006 ทำให้ Teacher’s Ardmore และ Laphroaig ได้ถูกขายให้กับ Beam Global สุดท้ายในปีค.ศ. 2014 โรงกลั่น Ardmore ก็ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Beam Suntory จนถึงปัจจุบัน

Ardmore Single Malt นั้นได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาอย่างยาวนาน โดยพวกเขายังคงยึดมั่นในการใช้วิธีการผลิตวิสกี้แบบดั้งเดิม โดยน้ำที่ใช้ในการผลิตวิสกี้มาจากแหล่งน้ำในหุบเขา Knockandy ที่อยู่สูงถึง 1,500 ฟุต เมื่อกลางทศวรรษที่ 70 Ardmore ได้มีข้าวบาร์เลย์สำหรับทำMalting เป็นของตัวเอง โดยการทำ Malting คือการแช่เมล็ดข้าวบาร์เลย์ไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมงให้เมล็ดข้าวมีความชื้นเพียงพอที่โปรตีนจะแตกตัวลง จากนั้นจะใช้เวลา 4-6 วันในการเพาะเมล็ดข้าวบาร์เลย์ให้แตกหน่อออกมา สุดท้ายคือขั้นตอนการนำเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่แตกหน่อเรียบร้อยแล้วไปเผา ความร้อนจะยับยั้งการงอกของเมล็ดข้าวบาร์เลย์ และช่วยลดความชื้นในเมล็ดข้าวลง อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนารสชาติและสี เพื่อให้เกิดรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของวิสกี้ขึ้น

ในตอนแรกที่โรงกลั่น Ardmore เริ่มต้นด้วยหม้อสำหรับกลั่นทั้งหมดสองหม้อ แต่หลังจากนั้นจำนวนหม้อกลั่นก็เพิ่มขึ้นเรื่อง จากหม้อกลั่น 4 หม้อ ก็ได้เพิ่มไปเป็น 8 หม้อตั้งแต่ปีค.ศ.1975 โดยแบ่งออกเป็นหม้อหมักวิสกี้จำนวน 4 หม้อ และหม้อสำหรับการกลั่นวิสกี้อีกครั้ง จำนวน 4 หม้อ โดยที่แต่ละหม้อมีความจุถึง 15,000 ลิตรเลยทีเดียว และในช่วงปีค.ศ. 2000-2001 Ardmore ก็ได้เปลี่ยนไปใช้ถ่านหินแทนการทำให้ร้อนด้วยไอน้ำ จากนั้นเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นเรียบร้อยแล้ว วิสกี้ก็จะถูกบรรจุลงในถังไม้โอ๊กสีขาวของอเมริกันที่เคยใช้เก็บเหล้าเบอร์บอนมาก่อน และถูกนำไปเก็บไว้ที่โกดังที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่

วิสกี้ของ Ardmore รุ่น PORT WOOD FINISH นั้นเป็นวิสกี้ที่มีระดับและเอกลักษณ์ที่พิเศษ ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ 46% โดยวิสกี้ชนิดนี้ถูกหมักในถังเบอร์บอนที่ทำจากไม้โอ๊กสีขาวของอเมริกัน และใช้ท่อ Half port แบบยุโรป ทำให้ได้ของเหลวที่ใส หวาน และมีความสมดุลของผลไม้และกลิ่นควัน อีกทั้งยังใช้การบ่มผ่านเครื่องกรองที่ไม่ได้แช่เย็นเป็นเวลา 12 ปี จนได้วิสกี้ที่มีสีเหลืองทอง และกลิ่นหอมที่ซับซ้อนของสตรอเบอร์รี่ ผลไม้ในฤดูร้อนพริกไทย ส้มเผา อบเชย เป็นต้น สำหรับรสชาติจะได้รสของแอปเปิลสีแดงที่หวาน น้ำผึ้งและกลิ่นถ่านไม้จางๆ และรสสัมผัสที่อ่อนนุ่มยาวนานในช่วงท้าย

The Ardmore Port Wood Finish

The Ardmore Port Wood Finish

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com