The Singleton of Glendullan Double Matured

The Singleton of Glendullan Double Matured

            The Singleton of Glendullan Double Matured นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและความนิยมมากในระดับโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Glendullan ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนดังในการผลิตเหล้าอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 15 ปี โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีการสร้างขึ้นมาโดยการใช้นำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่มีชื่อเรียกอีกหย่างหนึ่งว่า“Single Malt” มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตครั้งนี้ รวมทั้งยังเป็นการนำวัตถุดิบที่ใช้มาหมักลงในถังไม้ทั้งสองประเภท ได้แก่ ถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากอเมริกันและถังไม้โอ๊กจากยุโรป

            นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่คล้ายกับน้ำผลไม้ที่ผสานกันกับกลิ่นของผลแอพริคอทและเปลือกส้ม รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นของต้นโอ๊ก โกโก้ผสมเนย กลิ่นลูกแพรและกลิ่นบิสกิต นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างกันอยู่ โดยเหล้าวิสกี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ผลเชอร์รี่ น้ำตาลกลูโคสและผลไม้แห้งอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนาน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความเต็มน้ำเต็มเนื้อ โดยเฉพาะมีเอกลักษณ์ของถั่วและโกโก้ นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งนับว่าเป็นระดับมาตรฐานของเหล้าวิสกี้ทั่วไป

The Singleton of Glendullan Double Matured

The Singleton of Glendullan Double Matured

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenfiddich 15 Years Old Distillery Edition

Glenfiddich 15 Years Old Distillery Edition

            Glenfiddich 15 Years Old Distillery Edition นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและความนิยมมากในระดับโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Glenfiddich ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนดังในการผลิตเหล้าอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 15 ปี โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีการสร้างขึ้นมาโดยการใช้นำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่มีชื่อเรียกอีกหย่างหนึ่งว่า“Single Malt” มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตครั้งนี้ รวมทั้งยังเป็นการนำวัตถุดิบที่ใช้มาหมักลงในถังไม้ทั้งสองประเภท ได้แก่ ถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากอเมริกันและถังไม้โอ๊กจากสเปน

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่น สี และรสชาติของรสสัมผัสที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง โดยสีของเนื้อสัมผัสที่มีสีน้ำตาลอมเหลือง และยังมีกลิ่นที่หอมหวานของดอกไม้และมีกลิ่นที่นุ่มนวลของครีม นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่สดใหม่จากเครื่องเทศ เช่น พริกไทยดำ และมีกลิ่นที่หวานมาจากวานิลลาและผลไม้อีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมจากเครื่องเทศ วานิลลาและผลไม้ นอกจากนี้เหล้านี้ยังมีรสสัมผัสที่มีความนุ่มนวลและความกลมกล่อมอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีเอกลักษณ์ที่ความนุ่มนวลจากครีม ความหวานจากดอกไม้และผลไม้ และความฉุนหรือเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพริกไทยดำ นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 51% ซึ่งนับว่าสูงอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเหล้าทั่วไป

Glenfiddich 15 Years Old Distillery Edition

Glenfiddich 15 Years Old Distillery Edition

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenfiddich 25 Years Old Rare Oak

Glenfiddich 25 Years Old Rare Oak

            Glenfiddich 25 Years Old Rare Oak นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและความนิยมมากในระดับโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Glenfiddich ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนดังในการผลิตเหล้าอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 25 ปี โดยเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการวางจำหน่ายในตลาดนักท่องเที่ยวจนมีความนิยมทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าชนิดนี้ยังส่งออกถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมสเปนและอเมริกันได้อย่างดี อันเนื่องมาจากผู้ผลิตจะนำวัตถุดิบทั้งหลายไปลงในถังไม้ที่แตกต่างกันถึงสองประเภทด้วยกัน ได้แก่ ถังไม่เชอร์รี่ของสเปนและถังไม้โอ๊กพันธุ์ดีของอเมริกาที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอน โดยผู้ที่ผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์เหล้าอย่าง Glenfiddichและเหล้าชนิดนี้ก็มีการนำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% มาใช้ในการ

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นของเหล้าที่มีกลิ่นของแอปเปิลเขียวชุบคาราเมลผสมกันกับเนย รวมทั้งยังมีกลิ่นของใบเบอร์รี่สีดำ ผลเบอร์รี่สีดำ ต้นโอ๊กและเหล้ารัมเล็กน้อยอีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างกันกับรสชาติ โดยรสชาติของเหล้านี้จะมีความเป็นลูกเกดค่อนข้างมาก รวมทั้งยังมีรสสัมผัสของขนมบิสกิตกับขนมปังขิง คอนเฟลกผสมกับน้ำผึ้ง

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นและรสชาติที่มีทั้งความหวานและความฉุนเล็กน้อยที่เข้ากันได้อย่างดี รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติของสน ผลส้มเขียวหวานและจันทน์เทศ นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40-43%

Glenfiddich 25 Years Old Rare Oak

Glenfiddich 25 Years Old Rare Oak

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenfiddich 30 Years Old

Glenfiddich 30 Years Old

            Glenfiddich 30 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและความนิยมมากในระดับโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Glenfiddich ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนดังในการผลิตเหล้าอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 30 ปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีอายุยาวนานกว่าทั่วไปมาก ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าชนิดนี้ยังส่งออกถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมสเปนและอเมริกันได้อย่างดี อันเนื่องมาจากผู้ผลิตจะนำวัตถุดิบทั้งหลายไปลงในถังไม้ที่แตกต่างกันถึงสองประเภทด้วยกัน ได้แก่ ถังไม่เชอร์รี่โอโลโรโซของสเปนและถังไม้โอ๊กพันธุ์ดีของอเมริกาที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอน โดยผู้ที่ผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์เหล้าอย่าง Glenfiddich

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีบรอนซ์สวยงาม ผนวกกันกับเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างสมดุลกันขององค์ประกอบจากต้นโอ๊ก โกโก้ กาแฟ ข้าวมอลต์และผลไม้นานาชนิด โดยเฉพาะผลเชอร์รี่ที่มีกลิ่นมากกว่าผลไม้อื่นเป็นพิเศษ ซึ่งกลิ่นที่ได้รับนั้นก็จะไม่ค่อยแตกต่างกันกับรสชาติเท่าไหร่ โดยรสชาติของเหล้าจะมีรสสัมผัสของเชอร์รี่ที่โดดเด่นออกมา และยังมีความหวานจากวานิลลาและต้นโอ๊กออกมา ผสานกับรสชาติของความหวานจากผลไม้ที่ช่วยเพิ่มความซับซ้อนของเหล้านี้ให้มีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเอกลักษณ์ของเหล้าวิสกี้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวานิลลา ต้นโอ๊กและผลเชอร์รี่ที่มีมากกว่าองค์ประกอบอื่นเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนานกว่าเหล้าวิสกี้ทั่วไปอีกด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 40-43.6% ซึ่งนับได้ว่าไม่ค่อยสูงมากนัก

Glenfiddich 30 Years Old

Glenfiddich 30 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Sir Edward’s 12 Years Old

Sir Edward’s 12 Years Old

            Sir Edward’s 12 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Sir Edward’s ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่บริเวณใจกลางของประเทศสกอตแลนด์ ในสหราชอาณาจักร โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีนับได้ว่าหายากเป็นระดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำวัฒนธรรมของชาวสกอตมาใช้ในการผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ ซึ่งเหล้าวิสกี้ที่มีการนำข้าวมอลต์และข้าวธัญพืชที่ผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกสายพันธุ์เยี่ยมมาใช้ โดยจะนำวัตถุดิบทั้งหมดมาใช้ในการหมักลงในถังไม้โอ๊กที่มีการผลิตขึ้นมาในประเทศสกอตแลนด์

            ตัวเหล้าวิสกี้ชนิดนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำถังไม้โอ๊กพันธุ์ดีมาใช้ จึงทำให้เหล้าชนิดนี้มีทั้งรสชาติและกลิ่นที่หวานกลมกล่อมอย่างยิ่ง เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความหวานมาจากผลไม้แห้งและวานิลลาที่ผสมรวมกัน จึงทำให้รสชาติของเหล้านี้มีความนุ่มลึก เบาบางและนุ่มนวล

            ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม หอมหวาน และกล่อมกล่อม เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนานกว่าเหล้าทั่วไปมาก สมกับเป็นเหล้าที่ติดอันดับหนึ่งในสิบห้าเหล้าที่ขายดีที่สุดในโลก และเป็นเหล้าที่มีการจัดจำหน่ายมากกว่า 120 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% และยังเป็นเหล้าที่มีอายุมากกว่า 12 ปี

Sir Edward's 12 Years Old

Sir Edward’s 12 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

            Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงอย่าง Tullamore D.E.W. ซึ่งเป็นโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยเจ้าของผู้ผลิตนั้นได้เคยมีประสบการณ์ในการร่วมงานกับนักร้องและคนในวงการบันเทิงที่มีชื่อระดับโลกถึงสองคนด้วยกัน โดยท่านแรกคือ Elijah Genesis ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ Friedrich Hermann จากประเทศเยอรมนี

            ซึ่งตัวเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการนำเหล้าวิสกี้ของชาวไอริชมาใช้เป็นแนวทางในการผลิตถึงสามชนิดด้วยกัน สมกับที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่แท้จริงของชาวไอริช ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีการนำไปหมักในถังหมักเหล้าวิสกี้ทั้งสองชนิดด้วยกัน ได้แก่ ถังไม้โอ๊กที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนใบเก่าและถังไม้เชอร์รี่

ด้วยการหมักเหล่านี้ที่ช่วยทำให้เหล้ามีความนุ่มนวลและความเบาบางมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่หวานจากผลส้มสายน้ำผึ้งและแอปเปิลเขียวผสมรวมกัน นอกจากนี้เหล้านี้ยังมีการผสานกลิ่นวานิลลาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเหล้าวิสกี้ก็ยังมีรสชาติที่นำหน้าด้วยผลไม้สดใหม่ที่ผสานกับสมุนไพรและรสสัมผัสที่หวานจากวานิลลาด้วยเช่นกัน

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ให้ความหวานจากวานิลลา ความสดใหม่จากเนยที่ทยอยเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อผสมแก้วอย่างดี รวมทั้งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ยังมีระดับขงปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากนักสำหรับเหล้าวิสกี้

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

 

Grant’s Triple Wood

Grant’s Triple Wood

            Grant’s Triple Wood นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่างWilliam Grant & Sons (WG&S) ซึ่งเป็นโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นโรงกลั่นเหล้าของตระกูล Grant ที่มีเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเหล้าวิสกี้โดยเฉพาะ

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงเดือนกรกฎาคมของปี ค.ศ.2018 ซึ่งเป็นการผลิตเหล้าวิสกี้ที่มาใช้แทนที่เหล้าชนิดเดิมอย่าง Grant’s Family Reserve ซึ่งเป็นเหล้าที่มีส่วนผสมเหมือนกัน แต่ว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อส่งเสริมการขาย โดยตามชื่อเหล้านี้ เป็นเหล้าที่มีการใช้ถังไม้ทั้งหมดสามชนิดมาใช้ในการผลิตเหล้าวิสกี้นี้ ได้แก่ ถังไม้โอ๊กบริสุทธิ์ ถังไม้โอ๊กพันธุ์เมริกันชั้นดี และถังไม้โอ๊กที่ใช้หมักเหล้าเบอร์บอนแบบเติม  และมีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมานั่นเอง

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเลิศอีกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ ทั้งสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองทองอำพัน มีกลิ่นของเหล้าที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็ยังมีความชัดเจนและความโดดเด่นในกลิ่นขององค์ประกอบแต่ละชนิดของเหล้าวิสกี้อยู่ ทั้งกลิ่นของลูกแพรสุกและผลไม้ที่เติบโตในช่วงฤดูร้อน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติที่สมดุลและมีความหวานจากวานิลลา ข้าวมอลต์และดอกไม้นานาชนิด

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระยะเวลาของสัมผัสที่ค่อนข้างยาวนาน และมีเอกลักษณ์โดดเด่นมาจากวานิลลา ความนุ่มนวลของเนื้อสัมผัส ความเต็มน้ำเต็มเนื้อและความคมชัดในรสชาติและกลิ่นของเหล้า รวมทั้งเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับเกณฑ์ปกติ

Grant's Triple Wood

Grant’s Triple Wood

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

            Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อของโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc ซึ่งเป็นโรงกลั่นไวน์ที่อยู่ในระดับต้นๆของชุมชน Haut-Medoc ในเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผสมรวมกันขององุ่นมากกว่าสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 82%, Merlot 16% และ Cabernet Franc 2% โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์จะถูกนำมาใช้ในอัตราส่วนที่เหมือนกันในทุกรุ่น รวมทั้งยังมีการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกลักษณะอย่างดี เพื่อให้ได้ไวน์ที่ดีที่สุด

            ตัวไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีลักษณะของไวน์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีที่ค่อนข้างเข้มข้น รวมทั้งยังมีสีออกไปทางแดงทับทิมแกมแดงโกเมน ซึ่งไวน์ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้สีดำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีดำและเหล้าแคสซิสหรือเหล้าลูกเกดสีดำ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของวานิลลา ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่เต็มไปด้วยรสของต้นโอ๊กและเครื่องเทศที่ให้ความหวาน มีความเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างมาก

            ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่งที่มีรสชาติของความเปรี้ยวจากสารแทนนินที่ค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นเมื่อเหล้ามีการเก็บไว้อยู่ที่ประมาณสองถึงสามปี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกเช่นไก่และเป็ด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% อีกด้วย

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Mouton Rothschild Pauillac

Château Mouton Rothschild Pauillac

            Château Mouton Rothschild Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อของโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Château Mouton Rothschild ซึ่งเป็นโรงกลั่นไวน์ที่อยู่ในระดับต้นๆของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผสมรวมกันขององุ่นมากกว่าสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 82%, Merlot 16% และ Cabernet Franc 2% โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์จะถูกนำมาใช้ในอัตราส่วนที่เหมือนกันในทุกรุ่น รวมทั้งยังมีการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกลักษณะอย่างดี เพื่อให้ได้ไวน์ที่ดีที่สุด โดยองุ่นทั้งหมดจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่เป็นเวลายาวนานกว่า 22 เดือนก่อนที่จะถูกบรรจุลงขวด

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เริ่มจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่มีสีแดงเข้มผสานกับสีม่วงสวยงาม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีดำและผลบิลเบอร์รี่ป่า ผสมกับกลิ่นของชะเอมเทศและใบยาสูบที่ส่งกลิ่นอายของความหรูหราและซับซ้อนให้แก่ไวน์นี้ ซึ่งรสชาติกับกลิ่นนั้นก็แทบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยไวน์นี้เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสของความสดใหม่และความเต็มน้ำเต็มเนื้อ มีทั้งความเข้มที่เปิดรสมานช่วงแรก และค่อยๆหายไปเนื่องจากมีความนุ่มนวลของครีมและความเปรี้ยวจากสารแทนนินมาแทนที่

            ในภาพรวมนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ในเรื่องความครบของกลิ่นและรสชาติที่มีทั้งความนุ่มนวลและความเข้มข้นในเวลาเดียวกัน บวกกับเป็นไวน์ที่มีสัญลักษณ์ของผลไม้ป่าที่ผสานกับเครื่องเทศมากมาย ช่วงส่งให้ไวน์ชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างทั่วโลก

Château Mouton Rothschild Pauillac

Château Mouton Rothschild Pauillac

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

            Amiral de Beychevelle Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ชนิดที่สองของแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อไวน์ชื่อดังอย่าง Amiral de Beychevelle ที่มีการตั้งแหล่งการผลิตและแหล่งเพาะปลูกในเมือง Saint-Julienที่อยู่บริเวณ Medoc ของ Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งยังเป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ที่มีการสร้างมาตั้งแต่อดีตที่ยาวนานอีกด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นทั้งสามสายพันธุ์มาใช้ในกระบวนการผลิตไวน์ในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Merlot และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Franc ที่มีการใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต ซึ่งไวน์ชนิดนี้จะออกรุ่นใหม่มาแทบทุกปี โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์ จะต้องผ่านการคัดเลือกและเลี้ยงดูให้เติบโตด้วยเทคนิคเฉพาะและการคัดสรรที่ละเอียดถี่ถ้วน โดยองุ่นที่ใช้ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากบริเวณเพาะปลูกในคฤหาสน์ Chateau Beychevelle  ที่มีพื้นที่มากกว่า 250 เอเคอร์ รวมทั้งยังจะนำไปหมักลงในถังหมักไวน์ดั้งเดิมของประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้มราวกับสีของโกเมนกับสีม่วงเงาวาว รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อ รสชาติค่อนข้างเปรี้ยว แต่มีความกลมกล่อม โดยกลิ่นและรสชาติของไวน์นี้เต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของยลไม้สีดำหลากชนิด โดยเฉพาะผลเบอร์รี่สีดำและลูกพลัม

            ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อมและยอดเยี่ยมสมกับรางวัลสองปีซ้อนในการแข่งขัน Le Guide Hachette des Vins ในปี ค.ศ. 2001-2002 โดยกลิ่นและรสชาติของไวน์นี้เต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของยลไม้สีดำหลากชนิด โดยเฉพาะผลเบอร์รี่สีดำและลูกพลัม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีดอย่างเนื้อไก่และเนื้อเป็ด เพื่อเพิ่มรสชาติของไวน์ควรที่จะใช้อุณหภูมิในการเก็บรักษาที่ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ 60 องศาฟาเรนไฮต์สำหรับช่วยรักษาไวน์นี้ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์นี้ที่อยู่ที่ 12-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากเกินไปสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!