Sir Edward’s 12 Years Old

Sir Edward’s 12 Years Old

            Sir Edward’s 12 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Sir Edward’s ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่บริเวณใจกลางของประเทศสกอตแลนด์ ในสหราชอาณาจักร โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีนับได้ว่าหายากเป็นระดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำวัฒนธรรมของชาวสกอตมาใช้ในการผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ ซึ่งเหล้าวิสกี้ที่มีการนำข้าวมอลต์และข้าวธัญพืชที่ผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกสายพันธุ์เยี่ยมมาใช้ โดยจะนำวัตถุดิบทั้งหมดมาใช้ในการหมักลงในถังไม้โอ๊กที่มีการผลิตขึ้นมาในประเทศสกอตแลนด์

            ตัวเหล้าวิสกี้ชนิดนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำถังไม้โอ๊กพันธุ์ดีมาใช้ จึงทำให้เหล้าชนิดนี้มีทั้งรสชาติและกลิ่นที่หวานกลมกล่อมอย่างยิ่ง เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความหวานมาจากผลไม้แห้งและวานิลลาที่ผสมรวมกัน จึงทำให้รสชาติของเหล้านี้มีความนุ่มลึก เบาบางและนุ่มนวล

            ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม หอมหวาน และกล่อมกล่อม เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนานกว่าเหล้าทั่วไปมาก สมกับเป็นเหล้าที่ติดอันดับหนึ่งในสิบห้าเหล้าที่ขายดีที่สุดในโลก และเป็นเหล้าที่มีการจัดจำหน่ายมากกว่า 120 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% และยังเป็นเหล้าที่มีอายุมากกว่า 12 ปี

Sir Edward's 12 Years Old

Sir Edward’s 12 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

            Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงอย่าง Tullamore D.E.W. ซึ่งเป็นโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยเจ้าของผู้ผลิตนั้นได้เคยมีประสบการณ์ในการร่วมงานกับนักร้องและคนในวงการบันเทิงที่มีชื่อระดับโลกถึงสองคนด้วยกัน โดยท่านแรกคือ Elijah Genesis ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ Friedrich Hermann จากประเทศเยอรมนี

            ซึ่งตัวเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการนำเหล้าวิสกี้ของชาวไอริชมาใช้เป็นแนวทางในการผลิตถึงสามชนิดด้วยกัน สมกับที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่แท้จริงของชาวไอริช ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีการนำไปหมักในถังหมักเหล้าวิสกี้ทั้งสองชนิดด้วยกัน ได้แก่ ถังไม้โอ๊กที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนใบเก่าและถังไม้เชอร์รี่

ด้วยการหมักเหล่านี้ที่ช่วยทำให้เหล้ามีความนุ่มนวลและความเบาบางมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่หวานจากผลส้มสายน้ำผึ้งและแอปเปิลเขียวผสมรวมกัน นอกจากนี้เหล้านี้ยังมีการผสานกลิ่นวานิลลาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเหล้าวิสกี้ก็ยังมีรสชาติที่นำหน้าด้วยผลไม้สดใหม่ที่ผสานกับสมุนไพรและรสสัมผัสที่หวานจากวานิลลาด้วยเช่นกัน

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ให้ความหวานจากวานิลลา ความสดใหม่จากเนยที่ทยอยเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อผสมแก้วอย่างดี รวมทั้งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ยังมีระดับขงปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากนักสำหรับเหล้าวิสกี้

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

Tullamore D.E.W. Irish whiskey Triple Distilled

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

 

Grant’s Triple Wood

Grant’s Triple Wood

            Grant’s Triple Wood นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่างWilliam Grant & Sons (WG&S) ซึ่งเป็นโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นโรงกลั่นเหล้าของตระกูล Grant ที่มีเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเหล้าวิสกี้โดยเฉพาะ

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงเดือนกรกฎาคมของปี ค.ศ.2018 ซึ่งเป็นการผลิตเหล้าวิสกี้ที่มาใช้แทนที่เหล้าชนิดเดิมอย่าง Grant’s Family Reserve ซึ่งเป็นเหล้าที่มีส่วนผสมเหมือนกัน แต่ว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อส่งเสริมการขาย โดยตามชื่อเหล้านี้ เป็นเหล้าที่มีการใช้ถังไม้ทั้งหมดสามชนิดมาใช้ในการผลิตเหล้าวิสกี้นี้ ได้แก่ ถังไม้โอ๊กบริสุทธิ์ ถังไม้โอ๊กพันธุ์เมริกันชั้นดี และถังไม้โอ๊กที่ใช้หมักเหล้าเบอร์บอนแบบเติม  และมีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมานั่นเอง

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเลิศอีกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ ทั้งสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองทองอำพัน มีกลิ่นของเหล้าที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็ยังมีความชัดเจนและความโดดเด่นในกลิ่นขององค์ประกอบแต่ละชนิดของเหล้าวิสกี้อยู่ ทั้งกลิ่นของลูกแพรสุกและผลไม้ที่เติบโตในช่วงฤดูร้อน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติที่สมดุลและมีความหวานจากวานิลลา ข้าวมอลต์และดอกไม้นานาชนิด

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระยะเวลาของสัมผัสที่ค่อนข้างยาวนาน และมีเอกลักษณ์โดดเด่นมาจากวานิลลา ความนุ่มนวลของเนื้อสัมผัส ความเต็มน้ำเต็มเนื้อและความคมชัดในรสชาติและกลิ่นของเหล้า รวมทั้งเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับเกณฑ์ปกติ

Grant's Triple Wood

Grant’s Triple Wood

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

            Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อของโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc ซึ่งเป็นโรงกลั่นไวน์ที่อยู่ในระดับต้นๆของชุมชน Haut-Medoc ในเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผสมรวมกันขององุ่นมากกว่าสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 82%, Merlot 16% และ Cabernet Franc 2% โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์จะถูกนำมาใช้ในอัตราส่วนที่เหมือนกันในทุกรุ่น รวมทั้งยังมีการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกลักษณะอย่างดี เพื่อให้ได้ไวน์ที่ดีที่สุด

            ตัวไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีลักษณะของไวน์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีที่ค่อนข้างเข้มข้น รวมทั้งยังมีสีออกไปทางแดงทับทิมแกมแดงโกเมน ซึ่งไวน์ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้สีดำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีดำและเหล้าแคสซิสหรือเหล้าลูกเกดสีดำ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของวานิลลา ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่เต็มไปด้วยรสของต้นโอ๊กและเครื่องเทศที่ให้ความหวาน มีความเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างมาก

            ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่งที่มีรสชาติของความเปรี้ยวจากสารแทนนินที่ค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้นเมื่อเหล้ามีการเก็บไว้อยู่ที่ประมาณสองถึงสามปี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกเช่นไก่และเป็ด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% อีกด้วย

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

Chateau Grand Clapeau Olivier Haut-Medoc

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Mouton Rothschild Pauillac

Château Mouton Rothschild Pauillac

            Château Mouton Rothschild Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อของโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Château Mouton Rothschild ซึ่งเป็นโรงกลั่นไวน์ที่อยู่ในระดับต้นๆของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผสมรวมกันขององุ่นมากกว่าสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 82%, Merlot 16% และ Cabernet Franc 2% โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์จะถูกนำมาใช้ในอัตราส่วนที่เหมือนกันในทุกรุ่น รวมทั้งยังมีการเก็บเกี่ยวด้วยมือและคัดเลือกลักษณะอย่างดี เพื่อให้ได้ไวน์ที่ดีที่สุด โดยองุ่นทั้งหมดจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่เป็นเวลายาวนานกว่า 22 เดือนก่อนที่จะถูกบรรจุลงขวด

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เริ่มจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่มีสีแดงเข้มผสานกับสีม่วงสวยงาม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีดำและผลบิลเบอร์รี่ป่า ผสมกับกลิ่นของชะเอมเทศและใบยาสูบที่ส่งกลิ่นอายของความหรูหราและซับซ้อนให้แก่ไวน์นี้ ซึ่งรสชาติกับกลิ่นนั้นก็แทบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยไวน์นี้เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสของความสดใหม่และความเต็มน้ำเต็มเนื้อ มีทั้งความเข้มที่เปิดรสมานช่วงแรก และค่อยๆหายไปเนื่องจากมีความนุ่มนวลของครีมและความเปรี้ยวจากสารแทนนินมาแทนที่

            ในภาพรวมนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ในเรื่องความครบของกลิ่นและรสชาติที่มีทั้งความนุ่มนวลและความเข้มข้นในเวลาเดียวกัน บวกกับเป็นไวน์ที่มีสัญลักษณ์ของผลไม้ป่าที่ผสานกับเครื่องเทศมากมาย ช่วงส่งให้ไวน์ชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างทั่วโลก

Château Mouton Rothschild Pauillac

Château Mouton Rothschild Pauillac

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

            Amiral de Beychevelle Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ชนิดที่สองของแบรนด์ไวน์หรือยี่ห้อไวน์ชื่อดังอย่าง Amiral de Beychevelle ที่มีการตั้งแหล่งการผลิตและแหล่งเพาะปลูกในเมือง Saint-Julienที่อยู่บริเวณ Medoc ของ Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งยังเป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ที่มีการสร้างมาตั้งแต่อดีตที่ยาวนานอีกด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นทั้งสามสายพันธุ์มาใช้ในกระบวนการผลิตไวน์ในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Merlot และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Franc ที่มีการใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต ซึ่งไวน์ชนิดนี้จะออกรุ่นใหม่มาแทบทุกปี โดยองุ่นทั้งสามสายพันธุ์ จะต้องผ่านการคัดเลือกและเลี้ยงดูให้เติบโตด้วยเทคนิคเฉพาะและการคัดสรรที่ละเอียดถี่ถ้วน โดยองุ่นที่ใช้ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากบริเวณเพาะปลูกในคฤหาสน์ Chateau Beychevelle  ที่มีพื้นที่มากกว่า 250 เอเคอร์ รวมทั้งยังจะนำไปหมักลงในถังหมักไวน์ดั้งเดิมของประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้มราวกับสีของโกเมนกับสีม่วงเงาวาว รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อ รสชาติค่อนข้างเปรี้ยว แต่มีความกลมกล่อม โดยกลิ่นและรสชาติของไวน์นี้เต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของยลไม้สีดำหลากชนิด โดยเฉพาะผลเบอร์รี่สีดำและลูกพลัม

            ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อมและยอดเยี่ยมสมกับรางวัลสองปีซ้อนในการแข่งขัน Le Guide Hachette des Vins ในปี ค.ศ. 2001-2002 โดยกลิ่นและรสชาติของไวน์นี้เต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของยลไม้สีดำหลากชนิด โดยเฉพาะผลเบอร์รี่สีดำและลูกพลัม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีดอย่างเนื้อไก่และเนื้อเป็ด เพื่อเพิ่มรสชาติของไวน์ควรที่จะใช้อุณหภูมิในการเก็บรักษาที่ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ 60 องศาฟาเรนไฮต์สำหรับช่วยรักษาไวน์นี้ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์นี้ที่อยู่ที่ 12-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากเกินไปสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

Amiral de Beychevelle Saint-Julien

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Haut-Marbuzet Saint estèphe

Château Haut-Marbuzet Saint estèphe

            Château Haut-Marbuzet Saint estèphe นับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีกลิ่นอายของความเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Château Haut-Marbuzet ที่มีการตั้งแหล่งการผลิตและแหล่งเพาะปลูกในเมือง Saint-Estèphe ที่อยู่บริเวณ Medoc ของ Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งยังเป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ในช่วงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 อีกด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้บริเวณที่ดินที่กว้างใหญ่กว่า65 เอเคอร์ ที่มีการปลูกองุ่นอยู่หลายชนิดในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ 50% Cabernet Sauvignon, 40% Merlot, 5% Petit Verdot และ 5% Cabernet Franc โดยไวนชนิดนี้จะเน้นความสำคัญในการใช้องุ่นทั้งสี่สายพันธุ์ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ 50% Merlot, 40% Cabernet Sauvignon, 5% Cabernet Franc และ 5% Petit Verdot ซึ่งเป็นอัตราส่วนเดียวกันกับจำนวนองุ่นที่มีการเพาะปลูก โดยองุ่นทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานกว่า 18 เดือนด้วยกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความสวยงามจากสีเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยใบยาสูบ กาแฟเอสเปรสโซ่  ใบไม้หลากชนิดรมควันและผลเชอร์รี่สีดำ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่คล้ายคลึงกับกลิ่นที่ได้รับ ใบยาสูบ กาแฟเอสเปรสโซ่ ผลเชอร์รี่สีดำ ผลไม้สีแดงและเบอร์รี่สีดำที่มีช่วยส่งเสริมความกลมกล่อม เบาบาง นุ่มนวลและความเต็มน้ำเต็มเนื้อให้ไวน์แดงนี้ได้อย่างดี

            ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้จุดเด่นและเอกลักษณ์ทั้งสี รสชาติและกลิ่นทั้งใบยาสูบ กาแฟเอสเปรสโซ่ ผลเชอร์รี่สีดำ ผลไม้สีแดงและเบอร์รี่สีดำ ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีดอย่างเนื้อไก่และเนื้อเป็ด โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่จะมีรสชาติดีเมื่อเก็บไว้ที่ประมาณ 2-3 ปี สำหรับแบบทั่วไปและประมาณ 10-20 ปีสำหรับแบบวินเทจ และจำเป็นต้องเปิดค้างไว้ประมาณ 1-2  เพื่อเพิ่มรสชาติของไวน์อีกด้วย รวมทั้งยังสามารถใช้อุณหภูมิในการเก็บรักษาที่ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ 60 องศาฟาเรนไฮต์สำหรับช่วยรักษาไวน์นี้ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์นี้ที่อยู่ที่ 13.5-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากเกินไปสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป

Château Haut-Marbuzet Saint estèphe

Château Haut-Marbuzet Saint estèphe

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Beauregard Pomerol

Chateau Beauregard Pomerol

            Chateau Beauregard Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมอีกยี่ห้อหนึ่งที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Chateau Beauregard หรือเป็นชื่อเดียวกันกับสถานที่ที่ตั้งโรงกลั่นไวน์และแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ทำไวน์ของตัวเอง บริเวณชุมชนย่าน Pomerol ของเมือง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส

            โดยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ Chateau Beauregard ที่มีชื่อเสียงและเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อยี่ห้อไวน์ชนิดนี้ ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีบริเวณกว้างกว่า 17.5 เอเคอร์ เหมาะสมกับการเพาะปลูกองุ่นทั้งสองสายพันธุ์หลักในการผลิตไวน์ชนิดนี้ ซึ่งได้แก่ Cabernet Franc และ Merlot โดยองุ่นทั้งสองสายพันธุ์นี้จะมีการใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละปีที่มีการผลิตไวน์นี้ขึ้นมา โดยองุ่นทั้งสองนั้นจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานระหว่าง 18-24 เดือน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจเพียงแค่การคัดสรรวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ผลิต แต่ว่าไวน์ชนิดนี้ยังมีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติของไวน์ที่เหมือนกัน ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นและรสชาติของผลไม้สีดำหลากชนิด ผสานกันกับชะเอมเทศ เมล็ดกาแฟและลูกพลัมที่ช่วยให้เหล้าชนิดนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

            ด้วยรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยผลไม้ ไม่ว่าจะทั้งกลิ่นและรสชาติ บวกกับระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์นี้ที่อยู่ที่ 13-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่มากเกินไปสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป เหมาะกับดื่มสำหรับนักดื่มมือใหม่ได้อย่างดี นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีดอย่างเนื้อไก่และเนื้อเป็ด โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่จะมีรสชาติดีเมื่อเก็บไว้ที่ประมาณ 4-6 ปี สำหรับแบบทั่วไปและประมาณ 5-12 ปีสำหรับแบบวินเทจ รวมทั้งยังสามารถใช้อุณหภูมิในการเก็บรักษาที่ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ 60 องศาฟาเรนไฮต์สำหรับช่วยรักษาไวน์นี้

Chateau Beauregard Pomerol

Chateau Beauregard Pomerol

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Macallan Double Cask 18 Years Old

Macallan Double Cask 18 Years Old

            Macallan Double Cask 18 Years Old เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง MACALLAN ซึ่งเป็นโรงงานกลั่นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ซึ่งโรงงานกลั่นเหล้าแห่งนี้เป็นโรงงานกลั่นเหล้าที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1824

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ได้รับวัฒนธรรมของกระบวนการผลิตอยู่ที่เมือง Highland ซึ่งอยู่ในสหราชอาณาจักรด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการใช้ถังโอ๊กชั้นเยี่ยมถึงสองชนิดมาเป็นกรรมวิธีการหลัก ได้แก่ ถังไม้โอ๊กพันธุ์ดีจากอเมริกาและอีกถังเป็นถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากยุโรป ซึ่งทั้งสองถังนั้นจะมีการหมักผลเชอร์รี่ Oloroso หรือเชอร์รี่ตามฤดูกาลลงในถังทั้งสองใบในปริมาณและอัตราส่วนที่เท่ากันทุกครั้งอีกด้วย

ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองสวยงามราวกับสีเหลืองทองอำพันผสมกับสีน้ำผึ้ง และยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นของผลไม้แห้ง ขิงและลูกกวาดที่โดดเด่นมาอีกด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีกลิ่นขององค์ประกอบอื่นด้วย ได้แก่ ส้ม กานพลูและลูกจันทน์เทศ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีรสชาติของคาราเมล วานิลลาและขิง ซึ่งผสานรสชาติกันอย่างดีกับเครื่องเทศและส้มเปรี้ยว

ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่น ไปด้วยความเป็นผลไม้ ขิงและเครื่องเทศผสมรวมกัน โดยเฉพาะส้มที่ให้ทั้งความหวานและความเปรี้ยวที่ผสานกันได้อย่างลงตัวและเหมาะสม นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 43% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากสำหรับเหล้าวิสกี้ทั่วไป

Macallan Double Cask 18 Years Old

Macallan Double Cask 18 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Glenlivet Triple Cask Matured Distillers Reserve

The Glenlivet Triple Cask Matured Distillers Reserve

            The Glenlivet Triple Cask Matured Distillers Reserve เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งที่มีการผลิตขึ้นมาโดย. แบรนด์เหล้าวิสกี้และโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Glenlivet ซึ่งมีการตั้งฐานการผลิตที่บริเวณผลิตเหล้าวิสกี้ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร โดยบริษัทผลิตเหล้านี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ตราบจนถึงปัจจุบัน

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่ใครหลายคนในวงการนี้ต่างเรียกกันว่า “Single Malt” มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์จนถึงขั้นนำไปใช้ในการประกอบการชื่อเหล้านี้ คือ การนำวัตถุดิบหลักได้แก่ข้าวบาร์เลย์ไปหมักลงในถังไม้ทั้งหมดสามถังด้วยกัน ได้แก่ ถังไม้หมักเหล้าวิสกี้แบบดั้งเดิม ถังไม้โอ๊กพันธุ์อเมริกันที่มีการเน้นใช้ไม้จากต้นโอ๊กเนื้อขาวเท่านั้น และถังไม้เชอร์รี่เก่า ซึ่งทำให้เหล้าชนิดนี้ชื่อเสียงและความน่าสนใจ รวมทั้งเหล้าวิสกี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปตลาดนักท่องเที่ยวทุกพื้นที่ทั่วโลกของผู้ผลิตอีกด้วยเช่นกัน

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีทองสว่าง นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง โดยเริ่มแรกนั้น กลิ่นของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะมีความชัดเจนของกลิ่นที่ข้าวมอลต์ น้ำผึ้ง กลิ่นหอมที่คล้ายกับกลิ่นน้ำหอม กลิ่นต้นโอ๊กและกลิ่นวานิลลามาในอัตราส่วนที่เท่ากัน แต่ว่ากลิ่นที่มาพร้อมกันกับกลิ่นเหล่านี้แต่กลับมีความโดดเด่นมากกว่าคือกลิ่นของผลไม้แห้ง หลังจากนั้นเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ยังมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและสมดุลกัน รสสัมผัสแสดงออกมาในอัตราส่วนที่เท่ากัน ซึ่งรสสัมผัสที่มีนั้นประกอบไปด้วย รสชาติของพริกไทย วานิลลา น้ำผึ้ง เหล้าองุ่นและผลไม้แห้ง

            ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นจากเครื่องเทศ วานิลลา และที่สำคัญคือผลไม้แห้ง และในลำดับต่อมาเหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นและรสชาติในตอนท้ายจากมะนาว ขิงและน้ำมัน ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างแปลกจากเหล้าชนิดอื่นๆที่มีความหวานนำและความฉุนตามมา โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับแอลกอฮอล์ที่ปกติสำหรับเหล้าวิสกี้ทั่วไป

The Glenlivet Triple Cask Matured Distillers Reserve

The Glenlivet Triple Cask Matured Distillers Reserve

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!