John Walker & Sons Private Collection
John Walker & Sons Private Collection
John Walker & Sons Private Collection เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่ชุดพิเศษที่หาได้ยากมากสำหรับเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Johnnie Walker โดย John Walker & Sons เป็นส่วนย่อยของ Johnnie Walker ซึ่งเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่เกิดจากการประดิษฐ์โดยการใช้ผู้เชี่ยวชาญและนักปรุงเหล้าชั้นเยี่ยมจากหลายแห่งมาช่วยกันปรุงเหล้าวิสกี้นี้ขึ้นมา นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการนำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% ซึ่งใช้ในการผลิตเหล้า Johnnie Walker ทั้งห้าแห่งมาหมักรวมกันในถังหมักที่เป็นการผสมผสานรสชาติทั้งร้อยรสสัมผัสเลยทีเดียว
ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีลักษณะเด่นของกลิ่นและรสชาติที่เต็มน้ำเต็มเนื้อและมีความซับซ้อน โดยกลิ่นของเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นราวกับน้ำผึ้งผสมกันกับมะละกอ แอปเปิลและลูกปพรปรุงสุก ลิ้นจี่และกลิ่นของเครื่องเทศ รวมทั้งเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่ขนมหวานจำพวกทรัฟเฟิล พราลิน ถัวอัลมอนด์และถั่วเฮเซลนัทผสมกัน
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้า Limited Edition ที่หายากและมีกลิ่นกับรสชาติที่น่าลิ้มลองและยอดเยี่ยม มีทั้งความหวานจากขนมหวานและผลไม้ นอกเหนือจากนี้เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีอายุของเหล้ายาวนานมากถึง 28 ปีเลยทีเดียวและมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 43%
John Walker & Sons Private Collection
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Blue Label – Three Gods of Wealth
Johnnie Walker Blue Label – Three Gods of Wealth
Johnnie Walker Blue Label – Three Gods of Wealth เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
เหล้าทั้งห้าแบบจากซีรีย์นี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่หาได้ยากมากที่สุด เป็นเหล้าชุดพิเศษจาก Johnnie Walker ที่ได้จัดทำขึ้นมาจากแรงบันดาลใจจากเทพเจ้าที่สำคัญของประเทศจีนทั้งสามพระองค์ ได้แก่ เทพเจ้าแห่งความโชคดี (Fu Xing) เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยและเจริญรุ่งเรือง (Lu Xing) และเทพเจ้าแห่งการอายุยืนยาวนาน (Shou Xing)
โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีทองเข้ม มีกลิ่นอายทั้งรสชาติ กลิ่นและภาชนะที่เต็มไปด้วยนักสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยม เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการผสมผสานของวัตถุดิบจากข้าวมอลต์เป็นหลัก จึงทำให้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นอายที่ค่อนข้างหวานและนุ่มนวล มีความละมุนอย่างยิ่ง เป็นรสชาติและกลิ่นอายของศตวรรษที่ 19 อย่างแท้จริง
ในภาพรวมนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ละมุน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่ทางเราแนะนำสำหรับการซื้อให้เป็นของขวัญสำหรับผู้ใหญ่หรือบุคคลที่เรารักได้อย่างดี นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% อีกด้วย
Johnnie Walker Blue Label – Three Gods of Wealth
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Blue Label – Five Gods of Wealth
Johnnie Walker Blue Label – Five Gods of Wealth
Johnnie Walker Blue Label – Five Gods of Wealth เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
เหล้าทั้งห้าแบบจากซีรีย์นี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่หาได้ยากมากที่สุด เป็นเหล้าชุดพิเศษจาก Johnnie Walker ที่ได้จัดทำขึ้นมาจากแรงบันดาลใจจากเทพเจ้าผู้ปกปักษ์รักษาทิศทั้งห้าของประเทศจีน อันได้แก่ ดินแดนฝั่งเหนือ ฝั่งใต้ ฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตกและบริเวณภาคกลางของจีน โดยวัตถุดิบที่ใช้ทางผู้ผลิตจะเน้นการออกแบบด้วยเทคนิคการใช้ทอง 18k รวมทั้งผสานวัฒนธรรมการใช้ศิลปะภาพวาดจากจีนมาเป็นปกของขวดเหล้าทั้งห้าอีกด้วย
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการผสมผสานของวัตถุดิบจากข้าวมอลต์เป็นหลัก จึงทำให้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นอายที่ค่อนข้างหวานและนุ่มนวล มีความละมุนอย่างยิ่ง เป็นรสชาติและกลิ่นอายของศตวรรษที่ 19 อย่างแท้จริง
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นอายและรสสัมผัสที่หวาน ละมุน และนุ่มนวลอย่างยิ่ง บวกกับความสวยงามของบรรจุภัณฑ์ที่ได้สร้างสรรค์มาอย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้เหล้าวิสกี้ซีรีย์นี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่พิเศษและหายากในวงการเหล้าวิสกี้ รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40%
Johnnie Walker Blue Label – Five Gods of Wealth
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker 15 Years Sherry Finish
Johnnie Walker 15 Years Sherry Finish
Johnnie Walker 15 Years Sherry Finish เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการหมักรวมกันของข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่นักดื่มหลายคนล้วนรู้จักกันเป็นอย่างดีว่า “Single Malt” และนำวัตถุดิบเหล่านั้นได้มีการผ่านการหมักลงในถังไม้โอ๊กผสมพันธุ์ไม้เชอร์รี่อย่างดี โดยเวลาของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้สามารถที่จะเก็บไว้ค่อนข้างยาวนานเป็นเวลากว่า 15 ปีเลยทีเดียว
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์ของกลิ่นและรสชาติที่ความหวานของเหล้าจากองค์ประกอบให้ความหวานและผลไม้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้ง ผลเชอร์รี่ วานิลลา ผลไม้แห้งหลากหลายชนิด รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสสัมผัสที่นุ่มลึกด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสสัมผัสและกลิ่นอายที่สวยงามและนุ่มลึก สมกับเป็นเหล้าชั้นดีของชาวสก็อตซ์ เป็นเหล้าที่สามารถถ่ายทอดความหวานได้อย่างละมุนและลงตัว รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% อีกด้วย
Johnnie Walker 15 Years Sherry Finish
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Royal Route
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Royal Route
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Royal Route เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างขึ้นมาจากการเดินทางไปทุกคลับทั่วโลกของนักเดินทาง หรือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จสำหรับการเดินทางทั่วโลก ซึ่งเหล้าในชุดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาครั้งที่สองของ Johnnie Walker เลยก็ว่าได้ รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสถานที่และทวีปแทบทุกพื้นที่ทั่วโลก นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เป็นหนึ่งในสามของเหล้าชุดนี้อีกด้วย
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความพิเศษและความหรูหราเป็นอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากการผสานกันของวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาจจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับทางราชวงศ์โดยตรง แต่ว่าเป็นการศึกษาเส้นทางการขนส่งของแร่และอัญมณีที่สำคัญ ได้แก่ ไข่มุก เพชรและผ้าไหม หรือที่ทุกคนต่างล้วนรู้จักกันดีว่าเป็นเส้นทางการขนส่งที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกในสมัยโบราณนั่นเอง โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จึงเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์ที่เน้นความยิ่งใหญ่ เรียบง่ายแต่ดูดีเป็นหลักด้วยกลิ่นและรสชาติของแอปเปิล. ถั่ว ลูกพรุน ลูกพลัม รวมทั้งแก่นไม้นานาชนิด
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแก่นไม่นานาพันธุ์ ผสมผสานกันกับผลไม้ที่หลากหลาย ได้ส่งต่อกลิ่นอายของความเป็นชนชั้นสูงออกมาได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ด้วยเช่นกัน
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Royal Route
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Gold Route
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Gold Route
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Gold Route เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างขึ้นมาจากการเดินทางไปทุกคลับทั่วโลกของนักเดินทาง หรือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จสำหรับการเดินทางทั่วโลก ซึ่งเหล้าในชุดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาครั้งที่สองของ Johnnie Walker เลยก็ว่าได้ รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสถานที่และทวีปแทบทุกพื้นที่ทั่วโลก นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เป็นหนึ่งในสามของเหล้าชุดนี้อีกด้วย
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางทองคำที่ทางเจ้าของได้รับความรู้จากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในเมืองแมนฮัตตันได้มีการเดินทางไปที่บริเวณยอดเขาแอเดรียน ซึ่งตั้งอยู่ทางละตินอเมริกาหรือทางอเมริกากลางลาดยาวไปถึงชายหาดของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเนื้อสัมผัสเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีทองอำพันเข้ม แต่ไม่ขุ่นเท่าไหร่นัก เป็นเหล้าที่มีสีค่อนข้างเป็นสีทองใสพอสมควร โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้ฤดูร้อนที่ตากแห้งมาอย่างดี รวมทั้งยังมีกลิ่นของสับปะรดตากแห้ง พริกไทยดำบดและข้าวบาร์เลย์รมควัน รวมทั้งยังมีรสชาติที่ค่อนข้างหวานอันเนื่องมาจากรสสัมผัสที่คล้ายคลึงกับน้ำผึ้งและวานิลลา และมีความเค็มจางๆ เลม่อน ขิงและเครื่องเทศอื่นๆอีก
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่เต็มไปด้วนผลไม้สีดำมากมาย รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหวาน เผ็ด ร้อนและเค็มในเวลาเดียวกัน นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ด้วยเช่นกัน
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Gold Route
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Spice Road
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Spice Road
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Spice Road เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างขึ้นมาจากการเดินทางไปทุกคลับทั่วโลกของนักเดินทาง หรือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จสำหรับการเดินทางทั่วโลก ซึ่งเหล้าในชุดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาครั้งแรกของ Johnnie Walker เลยก็ว่าได้ รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสถานที่และทวีปแทบทุกพื้นที่ทั่วโลก นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เป็นหนึ่งในสามของเหล้าชุดนี้อีกด้วย
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Spice Road หรือหนทางแห่งเครื่องเทศ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางของการค้าขายเครื่องเทศในบริเวณละตินอเมริกา และได้รับวัฒนธรรมมาจากวัฒนธรรมเอเชีย เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีเหลืองทองอำพัน ออกไปทางสีส้มนิดๆที่แสดงถึงความเผ็ดร้อนของเหล้านี้ นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นของเครื่องเทศและผลส้มไซตรัสนำในช่วงแรก และเสริมความร้อนแรงด้วยกลิ่นของเลม่อน ขิงและกานพลู และมีรสชาติของเหล้าวิสกี้ที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอบเชย ขิง กานพลู ต้นจันทน์เทศ และมีวานิลลามาอย่างเจือจางอีกด้วย
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีมนต์เสน่ห์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ วานิลลา และผลไม้เมืองร้อนนานาชนิด ที่แสดงออกถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมของเส้นทางเครื่องเทศอย่างแท้จริง นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ด้วยเช่นกัน
Johnnie Walker Explorers’ Club Collection – The Spice Road
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Double Black
Johnnie Walker Double Black
Johnnie Walker Double Black เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการผลิตมาจากความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เหล้าดังอย่าง Johnnie Walker โดยเฉพาะ ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง เผ็ดร้อน และทรงพลัง รวมทั้งยังมีการผสมผสานจากวัฒนธรรมที่ได้ถูกเก็บเกี่ยวมาอย่างยาวนาน โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีได้มีการเผยแพร่ครั้งแรกในช่วงปี 2011 ซึ่งได้มีการนำมาวางจำหน่ายในบริเวณตลาดสำหรับนักท่องเที่ยว
เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสีของเหล้าที่เป็นสีทองเข้มราวกับสีอำพันล้ำค่าผสมกับทองสีอ่อน รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างทรงพลังและแข็งกระด้าง เต็มไปด้วยกลิ่นของผลส้มที่ผลิบานเต็มที่แล้ว ผสมกันกับกลิ่นของน้ำผึ้ง ดอกไม้และน้ำมันจางๆ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น รสชาติของเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างมาก มีทั้งความซับซ้อนของรสที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิล ลูกแพร และเปลือกส้ม รวมทั้งยังมีรสชาติของน้ำมันและเครื่องเทศผสมอยู่อีกด้วย
ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นระยะของสัมผัสที่ค่อนข้างยาวนาน บวกกับความอบอุ่นและความเผ็ดร้อนที่ออกมาจากตัวเหล้าก็ช่วยหนุนให้เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ควรค่าแก่การดื่มอย่างมาก รวมทั้งเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ด้วยเช่นกัน
Johnnie Walker Double Black
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Johnnie Walker Green Label 15 Years Old
Johnnie Walker Green Label 15 Years Old
Johnnie Walker Green Label 15 Years Old เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Johnnie Walker ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1906 โดย Sir Alexander Walker รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการตั้งแหล่งโรงกลั่นเหล้าวิสกี้และฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร
โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผสมกันระหว่างข้าวมอลต์เป็นหลัก ไม่ได้เป็นการผสมกันระหว่างเหล้าวิสกี้เหมือนกันกับรุ่น Red Label อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอด โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีแนวทางและแรงบันดาลใจในการผลิตมาจากการท่องเที่ยวหลากหลายทั่วทุกแห่งรอบประเทศสกอตแลนด์ของผู้ผลิต จึงทำให้เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่หายากอีกประเภทหนึ่ง
ในส่วนของรสชาติและกลิ่นนั้นนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มน้ำเต็มเนื้อพอสมควร ทั้งกลิ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟมัคคิอาโต้ ช็อกโกแลต และ กลิ่นไม้จันทน์ นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติที่เต็มไปด้วยรสสัมผัสของผลไม้สดหลากหลายชนิด รวมทั้งยังมีรสของหญ้า ผลไม้เคี่ยวสุก เครื่องเทศเจือจาง ถั่วและกาแฟอีกด้วย
โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่อร่อย ยอดเยี่ยมและหาได้ยากยิ่ง สมกับเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากกว่า 15 ปี ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างนานมากสำหรับเหล้าวิสกี้ รวมทั้งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 43% ด้วยเช่นกัน
