Velarino – Puglia Nero di Troia

Velarino – Puglia Nero di Troia

สี: ทับทิมนุ่มลึก

รุ่นปี: –

ไวน์แดงสัญชาติอิตาลีที่ใช้องุ่นพันธุ์ Uva di Troia มาเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับกระบวนการกลั่นไวน์ ที่ใช้กระบวนการผลิตไวน์สไตล์แบบ Southern Italy Red และมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 14.5%

กลิ่น: ด้วยกลิ่นที่หอมเข้มข้นและหวานจาก เชอร์รี่, สตรอเบอร์รี่, ชะเอม, พริกไทยดำ, เครื่องเทศอบ และมีรสชาติที่เข้มข้นของผลไม้สีแดงแบบเต็มตัว

รสสัมผัส: มีความเข้มข้นสูง มีความสมดุล เป็นแทนนินเล็กน้อย รสชาติค่อนไปทางแห้ง มีรสชาติที่รู้สึกได้ถึงแร่ธาตุและมีความยาวนาน กลิ่นน้ำหอมผสมผสานกับรสชาติของผลไม้ตุ๋น โป๊ยกั๊ก บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ รสผลไม้สีดำกับดาร์กช็อกโกแลตเล็กน้อยและมีความเป็นกรดปานกลาง

Early Times Bottled in Bond 100 Proof

Early Times Bottled in Bond 100 Proof

วิสกี้เบอร์เบิ้นจากสหรัฐอเมริกา ที่ประกอบด้วยข้าวโพด 79% ข้าวไรย์ 11% และข้าวบาร์เลย์มอลต์ 10% หมักด้วยยีสต์สายพันธุ์เฉพาะจากโรงกลั่น ซึ่งได้มีการบ่มเป็นเวลาอย่างน้อยสี่ปีในถังไม้โอ๊คที่ไหม้เกรียมแบบใหม่

สี: เซดอนา

รุ่นอายุ: –

กลิ่น: ข้าวโพดคาราเมลอโรมาไลท์พร้อมเปลือกส้ม น้ำผึ้งและโอ๊คอ่อน มีรสข้าวโพดคาราเมลนุ่มผสมผสานกับคุกกี้ขนมชนิดร่วนเคลือบด้วยช็อคโกแลตและโอ๊ค กลิ่นเครื่องเทศอบเชยที่อบอวลไปด้วยความหวานจากข้าวโพดคาราเมลที่ยังคงอยู่ในตอนท้าย

รสชาติ: มีความเนียบนุ่ม เรียบเนียน อุดมไปด้วยลักษณะเฉพาะตัว รสชาติหลักจากข้าวโพด คาราเมล ช็อคโกแล็ตและโอ๊คที่ผสมผสานกัน มีความหวานเข้มข้นที่น่าสนใจแบบสุดๆ

 

Elijah Craig Small Batch Bourbon 1789

Elijah Craig Small Batch Bourbon 1789

 

สี: อำพันเข้ม

รุ่นปี: 1789

วิสกี้จากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียง ที่มีการบ่มวิสกี้ลงในถังไม้โอ๊คที่ไหม้เกรียม โดยสำหรับตัวผู้ผลิตอย่าง Elijah Craig นั้น เขาได้รับการกล่าวขานถึงในฐานะของ ‘บิดาแห่งเบอร์เบิ้น’ เลยทีเดียว มีส่วนผสมจากข้าวโพด 78% ข้าวไรย์ 10% และข้าวบาร์เลย์มอลต์ 12% โดยใช้เวลาบ่มถึง 8-12 ปี เลยทีเดียว

กลิ่น: เอกลักษณ์ซับซ้อนของกลิ่นจากผลไม้และสมุนไพรที่สามารถผสมผสานกันได้อย่างน่าทึ่งตามด้วยกลิ่นจากโกโก้และไม้โอ๊คปิ้งตบท้าย

รสสัมผัส: มีรสชาติของเครื่องเทศอันอบอุ่นอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติของควันที่มีความละเอียดอ่อนจาก มิ้นต์, ลูกจันทน์เทศ, ควัน, หวาน, ขนมปังปิ้ง, วานิลลาและไม้

Larceny 1870 92 proof

Larceny 1870 92 proof

 

สี: เหลืองอำพันเข้มล้ำลึก

รุ่นปี: 1870

วิสกี้เบอร์เบิ้นที่เรียกได้ว่าเป็นมรดกสือต่อกันมาอย่างยาวนาน เป็นเบอร์เบิ้นที่ถูกกลั่นด้วยข้าวสาลีเป็นเมล็ดพืชเสริมแทนข้าวไรย์โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้รูปทรงที่นุ่มนวลขึ้น

กลิ่น: กลิ่นหอมสดชื่นจากดอกลาเวนเดอร์สีม่วงผสมผสานกับกลิ่นที่มีความเข้มข้นหวานหอมจากกากน้ำตาล,น้ำตาลทรายและสะระแหน่ ที่สามารถผสมผสานและเข้ากันได้อย่างน่าอัศจรรย์

รสสัมผัส: เป็นวิสกี้เบอร์บิ้นที่มีความเรียบเนียน มีความหวานจากน้ำเชื่อมเมเปิ้ล, วานิลลา,น้ำผึ้ง,ต้นโอ๊ก,ลูกเกดและกล้วย เสร็จสิ้นให้รสสัมผัสที่ยาวนานและอบอุ่นจากเครื่องเทศหวาน, อบเชยและขิง.

Dickel Bourbon Aged 8 Years

Dickel Bourbon Aged 8 Years

 

สี: เหลืองทอง

รุ่นอายุ: 8 ปี

เป็นสุดยอดวิสกี้เทนเนสซีที่ทำจากส่วนผสม Mashbill คลาสสิกของ Dickel โดยใช้ข้าวโพด 84% ข้าวไรย์ 8% และข้าวบาร์เลย์มอลต์ 8% ซึ่งวิสกี้นี้คือวิสกี้ “เบอร์เบิ้น” ไม่ใช่ “วิสกี้เทนเนสซี” แม้จะมาจากภูมิภาคอย่าง เทนเนสซี่ก็ตาม

กลิ่น: เอกลักษณ์จากกลิ่นของวานิลลาและคาราเมลแบบดั้งเดิมที่ค่อยๆทยอยออกมาในช่วงแรก ผสมผสานกับกลิ่นอันทรงพลังของบัตเตอร์สก็อตช์ คัสตาร์ดวานิลลา ข้าวโพดหวาน ซึ่งกลิ่นทั้งหมดนี้ได้ปรากฏขึ้นในระยะเวลาอันสั้นรวดเร็ว

รสสัมผัส: รสชาติที่ติดหวาน มีรสสัมผัสที่เบาบางไม่หนักหน่วงเหมือนวิสกี้ทั่วๆไป เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่เหมาะสำหรับการผสมค็อกเทล ด้วยรสชาติหวานๆที่ราวกับมีไซรัปผสมผสานอยู่และมีกลิ่นหอมครีมมี่แบบคาดไม่ถึง

Michter’s 25 Year Kentucky Straight Bourbon

Michter’s 25 Year Kentucky Straight Bourbon

 

สี: เหลืองทอง

รุ่นอายุ: 25 ปี

วิสกี้ Bourbon แบบคลาสสิค ที่ได้รับการคัดเลือกจาก Master Distiller Dan McKee และ Master of Maturation Andrea Wilson สำหรับการบรรจุขวด โดยใช้เวลาในการกลั่นผ่านไม้โอ๊คอเมริกันที่ไหม้เกรียมกว่าหนึ่งในสี่ของศตวรรษเลยทีเดียว

กลิ่น: เป็นวิสกี้ที่มีกลิ่นที่ความซับซ้อนและน่าดึงดูดใจ มีความสมดุลที่ยอดเยี่ยมจากกลิ่นและรสชาติของบูร์บงแบบคลาสสิก มีโน้ตของกากน้ำตาล, เครื่องเทศ, ช็อคโกแลต, ถั่วคั่ว, ผลไม้แห้ง, เนยละลายและวานิลลา ผสมผสานกัน

รสสัมผัส: รสสัมผัสได้จากไม้โอ๊คขาวอเมริกันที่ไหม้เกรียม มีความซับซ้อนและความสมดุลที่ยอดเยี่ยมในรสชาติที่ได้โน้ตของบูร์บองแบบคลาสสิกทั้งหมด รสชาติค่อยๆชัดขึ้นของเครื่องเทศ คาราเมล และความหวานที่เหมาะสมเพื่อสร้างสมดุลให้แก่วิสกี้ตัวนี้

Eagle Rare – Double Eagle Very Rare 20 Year

Eagle Rare – Double Eagle Very Rare 20 Year

 

สี: คอปเปอร์

รุ่นอายุ: 20 ปี

วิสกี้ที่บรรจุอยู่ในขวดคริสตัลมีความหรูหรา วิสกี้ Bourbon จากโรงกลั่น Buffalo Trace Distillery ที่มีรสชาติอันน่าลิ้มลอง โดยมีการผลิตขวดพิเศษรุ่นนี้เพียงแค่ 299 ขวดเท่านั้น

กลิ่น: กลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากกลิ่นหอมของ วานิลลา ไม้โอ๊คปิ้ง และคาราเมลทำให้ได้สัมผัสได้ถึงกลิ่นโอ๊คที่มีความเก่าแก่และมีความสง่างามในตัวเองแบบสุดๆ

รสสัมผัส: เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่มีรสสัมผัสปละรสชาติที่มีมีความสมดุลอย่างน่าประหลาดใจ โดยหลังจากที่มีอายุมากขึ้นถึงสองทศวรรษ ก็มีกลิ่นของของวนิลา ไม้โอ๊คที่ปิ้งแล้วและคาราเมลที่มีกลิ่นโอ๊คที่หรูหราเป็นอย่างมาก

O.F.C Vintages

O.F.C Vintages

สี: คอปเปอร์

รุ่นปี: 1995

สุดยอดวิสกี้เบอร์เบิ้นอายุ 25 ปีจะบรรจุขวดในขวดคริสตัลที่มีตัวอักษรทองแดงฝังอยู่ภายในตู้โชว์ที่ทำจากไม้พร้อมการ์ดมาอยางพรีเมี่ยมสีสันสดใส ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเหล้าที่หายากจากโรงกลั่นเหล้ายอดนิยมที่ได้นำถังที่เก่าแก่และดีที่สุดมาใช้ในกระบวนการบ่มแบบดั้งเดิม

กลิ่น: เป็นกลิ่นโน้ตของเหล้าสไตล์วินเทจนี้ให้กลิ่นอายของเชอร์รี่ที่จมูก ตามด้วยคาราเมลและโอ๊ครมควันเล็กน้อย ตามมาด้วยกลิ่นของดาร์กช็อกโกแลต ใบยาสูบ และอินทผาลัม ตามด้วยเครื่องหนัง พริกไทยดำ และอบเชย

รสสัมผัส: รสสัมผัสที่ได้จาก เชอร์รี่ โอ๊ครมควัน ดาร์กช็อกโกแลต ใบยาสูบ อินทผาลัม พริกไทยดำ อบเชย และเครื่องหนัง โดยรวมเป็นรสสัมผัสที่มีความเผ็ดหวานผสมผสานกันอย่างละมุนนุ่ม

The Last Drop 1980

The Last Drop Buffalo Trace 1980

รุ่นปี: 1980
สี: ทองเข้มเฉพาะตัว
สุดยอดวิสกี้Bourbon ที่ยอดเยี่ยมและสามารถเรียกได้ว่าเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าสุดๆจาก Buffalo Trace ซึ่งได้มีการบรรจุขวดโดย The Last Drop โดยสำหรับวิสกี้รุ่นนี้ได้ถูกกลั่นกรองมาตั้งแต่ปี 1980 และเติบโตเต็มที่มาเกือบสองทศวรรษ ถูกบรรจุขวดที่ 45% ABV โดยผลิตได้เพียง 240 ขวด ทั่วโลกเท่านั้น
กลิ่น: ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลิ่นเบอร์เบินจากต้นฟิก, อินทผาลัม, เชอร์รี่มาราสชิโน, หนัง, ทอฟฟี่, พลัมยาสูบ, วอลนัทและบัตเตอร์สก็อตที่คละคลุ้มไปทั่วทั้งเพดานปาก
รสสัมผัส:  ด้วยสีและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลังจากอายุมากขึ้นในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รสชาติผสมผสานกันอย่างกลมกลืน เปลี่ยนจากดาร์กช็อกโกแลต อัลมอนด์ หนัง คาราเมล และโอ๊ค ไปเป็นรสเผ็ดร้อนที่นุ่มนวล เสร็จสิ้นปิดท้ายด้วยซิมโฟนีเสมือนจริงบนเพดานปาก

Clos Du Marquis Saint-Julien 2011

Clos Du Marquis Saint-Julien 2011

อีกหนึ่งรุ่นไวน์สัญชาติฝรั่งเศสจาก Château Léoville Las Cases ที่เป็นไวน์แดงแบบ Blend ที่มีรสสัมผัสออกแห้งและมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง เป็นไวน์ราคาสูงจากกระบวนการผลิตที่มีความพิถีพิถัน

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมจากBlackberry, พลัม, โอ๊ค, เครื่องหนังและควัน โดยรสสัมผัสแรกหลังจากเริ่มจิบโดยส่วนใหญ่จะให้รสชาติจากผลไม้และลูกพลัมชนิดมีหนาม โดยไม่ค่อยมีรสสัมผัสจากแทนนินมากนัก และมีรสชาติของแอลกอฮอล์ผสานด้วย โดยหากปล่อยไว้สักพัก แอลกอฮอล์จะถูกลดระดับลงและแทนที่ด้วยแทนนิน

โดยรวมเป็นเครื่องดื่มทีมีความเนียนเรียบ มีกลิ่นผลไม้อ่อนและมีกลิ่นของหนังและควันชัดเจน คล้ายดอกกุหลาบที่ผลิบาน เป็นไวน์ที่เหมาะสำหรับการทานคู่กับสเต็กเนื้ออย่าง เนื้อวัว เนื้อแกะ และอาหารตระกูลสัตว์ปีกเพื่อสร้างรสชาติที่ดีเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมาก

 

error: Content is protected !!