The Singleton Of Glendullan 15 Year Old

The Singleton Of Glendullan 15 Year Old

            The Singleton Of Glendullan 15 Year Old เป็นเหล้าวิสกี้ภายใต้แบรนด์ The Singleton ที่มีเอกลักษณ์ฌพาะตัวมาจากการใช้วัตถุดิบมาจากข้าวบาร์เลย์แท้ 100% จากโรงกลั่นเหล้าชื่อดังอย่างGlendullan มาใช้ในการผลิต นอกนากจี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีความเป็นต้นตำรับ ตั้งแต่สมัยที่มีการเปิดตลาดขายกับนักท่องเที่ยวทั่วไปเมื่ออดีตอีกด้วย

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะมีต้นกำเนิดการผลิตมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนสามารถขยายตลาดของตัวเหล้าเองมายังพื้นที่ฝั่งยุโรป โดยเฉาะประเทศสก็อตแลนด์ และพื้นที่ฝั่งเอเชียอีกด้วย นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากกรรมวิธีการผลิตที่เน้นการผลิตในเชิงผสม ที่มีการนำกรรมวิธีการผลิตจากทางฝั่งสหรัฐอเมริกามาผสมกับกรรมวิธีจากฝั่งประเทศอังกฤษโดยเฉพาะ

            นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม ทั้งทางด้านกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ผสมรวมกัน เข้ากันได้อย่างลงตัว โดยตัวของเนื้อสัมผัสนั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีเนื้อสัมผัสที่สวยงามและเรียบเนียน ในส่วนของรสชาติและกลิ่นนั้นก็สามารถตอบโจทย์ให้กับหลายๆคนได้เช่นเดียวกัน ทั้งความกลมกล่อมคล้ายคลึงกับเหล้าเบอร์บอนผสมกันกับเหล้าสก็อต รวมทั้งยังมีรสชาติและกลิ่นอายของความเป็นชาวไอริสที่ผสานกันมาได้อย่างดี

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความไม่เหมือนใคร ทั้งด้านรสชาติและกกรมวิธีการผลิตที่คัดสรรมาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งนับได้ว่าไม่เยอะมากนักเมื่อเทียบกับเหล้าวิสกี้ชนิดอื่นๆ

The Singleton Of Glendullan 15 Year Old

The Singleton Of Glendullan 15 Year Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Gruaud-Larose  Saint-Julien

Chateau Gruaud-Larose  Saint-Julien

            Chateau Gruaud-Larose Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของไวน์ยี่ห้อแบรนด์ดังอย่าง Chateau Gruaud-Larose โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เกิดจากการผสานกันอย่างลงตัวขององุ่นทั้งสี่สายพันธุ์ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 61%, Cabernet France 7%, Merlot 29%, และองุ่นพันธุ์ Petit Verdot 3%

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Saint Julian ซึ่งอยู่ใน Bordeaux ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้ได้รับอิทธิพลกรรมวิธีการผลิตมาจากทางชุมชนนี้โดยตรงอีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้จะมีกระบวนการผลิตด้วยการนำองุ่นทุกพันธุ์ไปผสมในถังหมักโอ๊ก โดยใช้ถังโอ๊กฝรั่งเศสใบใหม่ 85% และนำไปหมักในนั้นเป็นเวลายาวนานกว่า 18 เดือน หลังจากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มไปจนครบ

            โดยเนื้อสัมผัสและกลิ่นของไวน์นั้นค่อนข้างงดงามมอย่างยิ่ง เริ่มด้วยเนื้อสัมผัสที่มีสีค่อนข้างสว่าง เป็นไวน์ที่มีสีแดงและแสดงออกถึงความคลาสสิกแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างหอมหวาน น่าลิ้มลอง ทั้งกลิ่นของครีมที่เบาบางและกลิ่นของน้ำผลไม้ที่ชุ่มช่ำ นอกจากนี้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ยังให้รสชาติของใบยาสูบจางๆที่ผสมรวมกันกับลูกสนและแบลกเบอร์รี่อีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว หรือเนื้อกวาง นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ค่อนข้างรักษาความเย็น จึงจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส และมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.2%

Chateau Gruaud-Larose  Saint-JulienChateau Gruaud-Larose  Saint-Julien

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Balvenie 14 Years Old Peat Week

The Balvenie 14 Years Old Peat Week

            The Balvenie 14 Years Old Peat Week เป็นเหล้าวิสกี้ที่ผลของการทดลองที่ดำเนินการในปี 2544 โดย Malt Master David Stewart ในเวลาที่มีโรงกลั่นสเปย์ไซด์น้อยมากที่ใช้พีทในการผลิตวิสกี้ นับตั้งแต่นั้นมาพวกเขามีหนึ่งพีทสัปดาห์ต่อปีทำการวิ่งแบบ peated โดยใช้พีทไฮแลนด์ 100% เพื่อทำให้ข้าวบาร์เลย์มอลต์แห้ง (ฟีนอล 30 ppm แต่อนุภาคที่ไม่ใช่ฟีนอลิกเด่นกว่า) นี่เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวในวงกว้างนี้ (ตามทริปเปิลแคสก์เพื่อการค้าปลีกการท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายน 2017) ซึ่งบรรจุในถังไม้โอ๊คอเมริกัน โรงกลั่นได้บอกใบ้ถึงการเปิดตัว Balvenie Peat Week ในรอบ 50 ปี

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองทองออกน้ำตาลอย่างกับเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมที่ผ่านการหมักจากสูตรการทำมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างอ่อนในช่วงแรก รวมทั้งยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นมากเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป โดยกลิ่นที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นของข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง ข้าวมอลต์และบิสกิต

            นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความหวานในรสชาติด้วยเช่นกัน แต่ไม่ใช้ความหวานที่มาจากผลไม้เหมือนกับเหล้าและไวน์ชนิดอื่นๆ นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ไม่กี่ประเภทที่มีกลิ่นเหมือนผลไม้ แต่กลับมีความจากข้าวมอลต์ ครีม และการรมควันซึ่งให้กลิ่นอายบรรยากาศของผักอยู่มาก นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ยังมีความเผ็ดฉุนมาจากพริกไทยทั้งขาวและดำด้วยเช่นกัน ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 48.3% ซึ่งนับว่าสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับเหล้าวิสกี้ชนิดอื่นๆ

            วิสกี้ที่ผ่านการคัดสรรจาก Balvenie นี้มีกลิ่นควันที่ละเอียดอ่อนละเอียดอ่อนแม้กระทั่งกลิ่นหอมในเนื้อแก้ว มันให้สัญญาเหล่านี้บนเพดานปากเช่นกัน: มันอร่อยและมีควันและเต็มไปด้วยลูกแพร์และอัลมอนด์เพื่อรักษาสมดุลของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ที่แสดงออก ความร้อนเล็กน้อยจบด้วยควันและวานิลลา มันเป็นมอลต์เดี่ยวที่ยอดเยี่ยมที่เหมาะสำหรับการจิบรอบกองไฟได้เป็นอย่างดียิ่ง

The Balvenie 14 Years Old Peat Week

The Balvenie 14 Years Old Peat Week

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Montes Purple Angel

Montes Purple Angel

            Montes Purple Angel นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงมากตัวหนึ่งของแบรนด์ Montes มีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้าน Colchagua ซึ่งเป็นแหล่งปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางใจกลางเมืองของประเทศชิลี โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นจากสองพันธุ์ชื่อดัง มาใช้ในกรรมวิธีการผลิต ไม่ว่าจะเป็นองุ่นพันธุ์ Carmenère 92% และองุ่นพันธุ์ Petit Verdot 8% ที่มีการหมักในถังโอ๊กฝรั่งเศสใบใหม่เป็นเวลา 18 เดือน มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14-15%

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีเป็นสีแดงโกเมนที่น่าค้นหาและดูลึกล้ำ มีความเข้มข้นของกลิ่นหอมที่มาพร้อมกับความโดดเด่นของกลิ่นผลไม้ จำพวกเบอร์รี่ผสมผสานกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศและขนมหวาน นอกจากนั้น ยังมีกลิ่นหอมที่ได้จากต้นโอ๊กฝรั่งเศสผสมผสานได้ดีมาก ให้รสสัมผัสช็อคโกแลตเข้มและวานิลลา สัมผัสได้ถึงรสฝาดๆ ของกรดแทนนิน ที่ช่วยเพิ่มความลึกลับซับซ้อนของรสชาติได้เป็นอย่างดี

             นี่คือไวน์ที่มีรสชาติที่สอดคล้องกับกลิ่นหอม มีรสสัมผัสติดปากที่ยาวนาน แนะนำอย่างยิ่งเมื่อดื่มคู่กับเนื้อแดง, เนื้อแกะสับกับโรสแมรี่, ซี่โครงหมูและ cannelloni ซึ่งเป็นอาหารจำพวกหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในประเภทของเส้นพาสต้าและลาซานญ่าผสมรวมกัน และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิอยู่ที่ 17-19  องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 63-66 องศาฟาเรนไฮต์ โดยก่อนที่จะดื่มควรตั้งทิ้งไว้ก่อนประมาณชั่วโมง เพื่อช่วยให้ไวน์ชนิดนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

Montes Purple Angel

Montes Purple Angel

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Canti Piemonte Passito Rosso

Canti Piemonte Passito Rosso

            Canti Piemonte Passito Rosso เป็นไวน์ที่มีการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Canti ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเมือง Prosecco ซึ่งอยู่ใน Veneto ของประเทศอิตาลี โดยชื่อไวน์นี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเมืองแหล่งผลิตและแหล่งการเพาะปลูกไวน์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ใช้องุ่นพันธุ์ Barbera มาใช้ 100%

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ทำด้วยองุ่น Barbera แห้งตามธรรมชาติบนเถา ทำให้สุกเร็วขึ้นในตอนท้ายของกระบวนการเนื่องจากการสะสมของความอบอุ่นและการขาดน้ำ ลักษณะขององุ่นสภาพภูมิอากาศและดินช่วยให้องุ่นที่อยู่บนเถาองุ่นมีมากเกินไป โดยกระบวนการในการผลิตไวน์ชนิดนี้ได้เกิดขึ้นในเหล็กโดยมีการหลอมยาวเป็นเวลา 15-18 วันที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ตามด้วยการหมักmalolactic และหกเดือนใน barriques

            ไร่องุ่นตั้งอยู่บนสันเขาที่ไหลไปทางขวาของแม่น้ำ Belbo ทางใต้ของแม่น้ำ Tanaro ที่ระดับความสูงระหว่าง 200 และ 400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ดินทรายมาร์ลมีต้นกำเนิดจากตะกอนทะเลมีตะกอนละเอียดถึงหยาบและมีขีด จำกัด ในการกักเก็บน้ำ การทำให้สุกเร็วขึ้นในช่วงสุดท้ายเนื่องจากการสะสมความร้อนและการขาดน้ำ ลักษณะของความหลากหลายภูมิอากาศและดินทำให้องุ่นสุกงอมมากเกินไป

            นอกจากนี้ ในส่วนของรสชาติของไวน์ชนิดนี้นั้นเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงราวกับสีของอัญมณีทับทิมที่มีสีแดงลึก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเปิดพอสมควร มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยที่ผสานมากับกลิ่นของผลไม้สุก โดยเฉพาะกลิ่นที่มาแทรกจางๆอย่างแยมลูกพลัมและแยมจากผลแบล็กเคอรแรนอีกด้วย

           ซึ่งรสชาติของไวน์นี้ก็ไม่ค่อยจะแตกต่างกับกลิ่นซักเท่าไหร่ ทั้งบรรยากาศของไวน์ที่นุ่มนวล มีความอบอุ่นและมีความเข้มข้นอยู่ในปาก แต่ก็ยังมีความสมดุลอย่างยิ่งในไวน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15% และเหมาะกับการรับทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ทุกชนิดด้วยเช่นกัน

Canti Piemonte Passito Rosso

Canti Piemonte Passito Rosso

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Canti Prosecco DOC

Canti Prosecco DOC

            Canti Prosecco DOC เป็นไวน์ที่มีการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Canti ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเมือง Prosecco ซึ่งอยู่ใน Veneto ของประเทศอิตาลี โดยชื่อไวน์นี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเมืองแหล่งผลิตและแหล่งการเพาะปลูกไวน์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ใช้องุ่นพันธุ์ Glera มาใช้ 100%

            Prosecco ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นทางเลือกราคาถูกสำหรับแชมเปญ เราจะไปไกลกว่าที่จะบอกว่าสิ่งนี้ดีกว่าฟองอากาศทั่วไปที่มักถูกส่งผ่านเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าสำหรับแชมเปญ

Canti เป็นเจ้าของและดำเนินงานโดยตระกูล Martini ในอิตาลีและพวกเขากำลังเต็มแรงก่อนที่จะได้รับชื่อ Canti ที่นั่น คุณจะพบบาร์ Canti Prosecco ใน Harrod’s of London, GUM ในมอสโกและ David Jones ในซิดนีย์ คุณจะพบว่าชื่อของพวกเขาถูกฉาบอยู่บนรถแท็กซี่สีดำกว่า 6,000 คันในกรุงลอนดอนเพื่อโฆษณาชื่อ!

            Canti Prosecco เป็นไวน์ที่มีราชาติและกลิ่นที่เบา เพรียวบางและคงอยู่ยาวนาน เป็นไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายและรสสัมผัสจากช่อมะนาว, มะนาว, ส้ม, แอปเปิ้ลและผลไม้เนื้อหินสีขาว เพดานปากสะท้อนกลิ่นหอมของส้มและลูกพีชที่จบลงด้วยความสดชื่นความเป็นกรดที่คมชัด ไวน์สดชื่นที่ไม่ได้เป็นเพียงไวน์ที่ไว้จิบเพื่อช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร หรือไวน์ที่ไว้กินเพียงแค่ช่วงก่อนมื้ออาหารเท่านั้น

            โดยไวน์นี้นับได้ว่าไม่ได้เป็นประกายอย่างแชมเปญ แต่นุ่มนวลเบาและแห้งสดชื่น ยอดเยี่ยมด้วยตัวมันเองและสมบูรณ์แบบที่จะนำขวดไปงานปาร์ตี้ถัดไปที่คุณชนกัน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 11%  ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับไวน์รุ่นอื่น ๆ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่ควรเสิร์ฟอยู่ที่ประมาณอุณหภูมิประมาณ 7-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น

Canti Prosecco DOC

Canti Prosecco DOC

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Durfort-Vivens Margaux

Château Durfort-Vivens Margaux

            Château Durfort-Vivens Margaux เป็นไวน์ที่เกิดจากการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Château Durfort-Vivens ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์รุ่นนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นหลากหลายสายพันธุ์มาใช้ ได้แก่ การผสมผสานของ Cabernet Sauvignon 70%, Merlot 25% และ Franc Cabernet 5%

            ในการผลิตไวน์นั้นได้รับการรับรองด้วยการผสมผสานระหว่างไม้และคอนกรีต, ถังควบคุมอุณหภูมิและโถ การหมักแบบ Malolactic เกิดขึ้นในถัง ไวน์ของ Durfort Vivens มีอายุการผสมผสานระหว่างถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสใหม่และถังดินเหนียวประมาณ 40% เป็นเวลาประมาณ 18 เดือนขึ้นอยู่กับคุณภาพและลักษณะของเหล้าองุ่น Chateau Durfort Vivens ให้บริการที่ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ อุณหภูมิห้องเย็นที่เกือบจะทำให้ไวน์สดชื่นและยกขึ้น

            ไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีการรับประทานควบคู่กันกับอาหารเนื้อสัตว์คลาสสิก, เนื้อลูกวัว, เนื้อหมู, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, เป็ด, เกม, ไก่ย่าง, ย่าง, ตุ๋นและย่าง นอกจากนี้ยังเป็นไวน์ที่เหมาะกับอาหารเอเชียที่มีส่วนประกอบหรือวัตถุดิบหลักจากปลามากมายหลากหลายชนิด เช่น ปลาทูน่า เห็ด และพาสต้า รวมถึงชีส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่แสดงสีที่ลึกด้วยเขียวชอุ่มพื้นผิวอ่อนนุ่มเนื้อและกลเม็ดเด็ดพรายไวน์ถูกสร้างขึ้นด้วยผลเบอร์รี่หวานขัดเงาพร้อมความสดใหม่ความยาวความซับซ้อนและความลึก นี่คือไวน์ที่ดีที่สุดที่เคยลิ้มลองจาก Durfort Vivens นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12-14%

Château Durfort-Vivens Margaux

Château Durfort-Vivens Margaux

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

            Wolf Blass Platinum Label Shiraz โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์ Shiraz มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแท้ 100% โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตและการคัดเลือกองุ่นมาจากไร่องุ่นบริเวณ Barosssa Valley ซึ่งอยู่ทางบริเวณตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการรวมตัวกันของความเป็นเลิศที่ไม่เหมือนใครและไร่องุ่นยังเสริมด้วยประสบการณ์และทักษะของผู้ผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมระดับโลก ผลไม้ที่เข้มข้นและแสดงออกอย่างหลากหลายได้รับการคัดเลือกจากไร่องุ่น Medlands ใน Barossa Valley เพื่อสร้างไวน์แดงที่ทรงพลังอย่างหรูหราสง่างามความบริสุทธิ์ของผลไม้และการปรากฏตัวที่ไม่ธรรมดา

             ไร่องุ่น Medlands ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษที่ Dorrien บนพื้นเหนือกลางของ Barossa Valley ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านการเติบโตของ Shiraz ค่อย ๆ ลาดลงไปทางแม่น้ำนอร์ ธ พาราเอลประโยชน์จากการทำความเย็นของสายลมที่ไหลลงมาจากเชิงเขาและรับแสงแดดที่เหมาะสมปริมาณน้ำฝนต่ำและความชื้นต่ำ

             ไร่องุ่นประกอบด้วยดินโบราณตั้งแต่ทรายดินร่วนเหนือดินเหนียวอ่อนไปจนถึงดินร่วนปนทรายวางบนดินเหนียวปานกลางวางลงเมื่อ 5 ล้านปีก่อนเมื่อการยกตัวของแนวตะวันออกและการจมของพื้นหุบเขาทำให้หุบเขากลางเต็มไปด้วยตะกอน terroir ที่ไม่ซ้ำกันนี้ส่งผลให้ชีราซของความบริสุทธิ์ความสง่างามโครงสร้างที่แน่นและความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ

             โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้ ไม่ว่จะเป็นกลิ่นผลไม้ อย่างเช่นบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ บอยเบอร์รี่ และพลัม แสดงให้เห็นถึงไร่องุ่น Medlands Terroir ที่มีกลิ่นหอมของช็อคโกแลต บิตเทอร์เวตต์กาแฟบดสด และเครื่องเทศจำพวกไม้โอ๊ค

             โดยไวน์ชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อเป็ด อาหารปิ้งย่างและพิซซ่า นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% อีกด้วยเช่นกัน

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

            Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์ไวน์อย่าง Wolf Blass ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่ตั้งอยู่บริเวณ South Australia ซึ่งอยุ่ในประเทศออสเตรเลีย โดยประเทศนี้ก็ยังนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการผลิตไวน์ในระดับโลกด้วยเช่นกัน

            โดยไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทาง Wolf Blass ส่งเสริมขึ้นมาได้อย่างมั่นคง ซึ่งไวน์นี้ไม่ได้เป็นไวน์ที่มีรูปแบบเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์เพียงเท่านั้น แต่ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดและรสชาติยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับไวน์รุ่นอื่นๆของ Wolf Blass

            โดยไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงค้อนไปทางเกือบสีดำ มีกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างเข้มข้นและมีกลิ่นของเหล้าที่หมักมาจากลูกเกดดำ ลูกสน ลูกพลัม ขิง พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆอีกมากมาย  นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของชะเอมเทศและกลิ่นของวานิลลาแทรกตัวมาจางๆอีกด้วยเช่นกัน

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่ชวนให้นักดื่มทั้งหลายได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่นุ่มนวลจากผลไม้ และมีรสชาติของเครื่องเทศที่ให้รสชาติที่ค่อนข้างฉุน พร้อมกับรสาติของต้นโอ๊กที่ให้ไวน์นี้มีความขมแทรกเข้ามาจางๆอีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติและกลิ่นที่งดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15% เพียงเท่านั้น

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Laphroaig Select

Laphroaig Select

Laphroaig Select เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการกลั่นโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ดังอย่าง Laphroaigรวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประมาณหมู่เกาะ Islay ซึ่งเป็นหมู่เกาะชื่อดังย่านบริเวณประเทศโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงและจุดเด่นในด้านการผลิตเหล้าวิสกี้

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผสมรวมกันระหว่างผลเชอร์รี่พันธุ์ Oloroso และถังโอ๊กพันธุ์อเมริกัน ซึ่งนักผลิตเหล้าภายนอกส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นว่าโอ๊กที่ใช้นั้นเป็นต้นโอ๊กบริสุทธิ์เท่านั้น นอกจากนี้เหล้าวิสกี้นี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการใช้ถังเหล้าเบอร์บอนด้วยเท่านั้น

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นหวานและมีความสมดุลของกลิ่นเป็นอย่างยิ่ง โดยกลิ่นอายที่แสดงออกมามีความเป็นทะเลและมหาสมุทร รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หวานมาจากข้าวบาร์เลย์ ผลไม้แห้งและกลิ่นของแยมผลไม้ โดยเฉพาะกลิ่นของสตรอเบอรืรี่อีกด้วย

เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติค่อนข้างปานกลาง ไม่หวานและไม่ขมจนเกินไป มีลักษณะเด่นที่ความชมและรสชาติที่หนักไปทางรสสัมผัสของผลไม้แห้งและแยมผลไม้ ซึ่งไม่ค่อยแตกต่างมากจากกลิ่นที่ได้รับมา รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่เต็มไปด้วยเชอร์รี่อีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัสที่ติดลิ้นอย่างยาวนาน รสชาติและกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้ การผสานระหว่างความหวานและความขมที่ผสมกันอย่างลงตัวและกลมกลืน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40%

Laphroaig Select

Laphroaig Select

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!