Tamnavulin – Glenlivet 1968 ‘The Old Mill’

Tamnavulin – Glenlivet 1968 ‘The Old Mill’

 

สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้น คือ ซิงเกิลมอลต์สก๊อตวิสกี้ที่กลั่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยถูกกลั่นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2511 และเติมลงในถังไม้โอ๊คหมายเลข 2525-2527 เพื่อให้สุกในถัง โดยถังเหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่โกดังจากโรงกลั่นจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2528 และได้รับเลือกให้บรรจุขวดแบบพิเศษแบบ The Stillman’s Dram ซึ่งมีการจัดทำขึ้นเพียง 996 ขวด เท่านั้น

จุดเด่นอยู่ที่เป็นซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 17 ปีที่หายากมาก เพราะในปัจจุบันนี้เป็นวิสกี้ที่ถูกรังสรรค์มาในถังไม้โอ๊คแท้ที่ได้เลิกผลิตไปแล้ว จากกระบวนการผลิตที่มีความปราณีตพิถีพิถันมากจึงได้เป็นรสชาติที่มีความซับซ้อน เข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ เป็นสีทองเข้มที่สวยสดงดงามมาก

โดยรวมวิสกี้หายากรุ่นนี้เหมาะแก่นักสะสมที่ชอบเสาะแสวงหาวิสกี้หายากในราคาที่จับต้องได้ มีความเป็นเอกลักษณ์ ลิ้มละเลียดรสชาติในวันพิเศษและโอกาสพิเศษเพียงไม่กี่ครั้ง เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแสนวิเศษให้แก่คนพิเศษของคุณแบบสุดๆ

Bladnoch 26 Year Old Talia Red Wine Finish

Bladnoch 26 Year Old Talia Red Wine Finish

 

วิสกี้ตัวดังจากBladnoch ผู้ซึ่งกลั่น Lowland Single Malt Scotch Whisky มาเป็นเวลาถึง 200 ปี โดยรุ่น Talia นั้นมีอายุถึง 26 ปี ซึ่งมีความโดดเด่น ได้มีการเปิดตัวในปี 2020 ถูกบ่มในถังไวน์แดงโอ๊คอเมริกันตลอดอายุ 26 ปี ให้รสชาติที่เข้มข้นและทรงพลัง ด้วยผลเบอร์รี่และดอกไม้แสนหวาน การยกย่องซิงเกิลมอลต์ที่หายากนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกจาก Dr Nick Savage ซึ่งเป็นผู้กลั่นระดับมาสเตอร์ของ Bladnoch เลยทีเดียว

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของ ต้นโอ๊คแก่ เบอร์รี่เข้มข้น แต่งแต้มด้วยดอกไม้สีครีมเล็กน้อย มีรสชาติของไม้โอ๊คขัดเงาพร้อมผลเบอร์รี่สีแดงเข้ม ชะเอมเทศ และกลิ่นลูกจันทน์เทศ รสสัมผัสที่เสร็จสิ้นประกอบด้วยรสชาติที่คงค้างยาวนาน มีความแห้งเล็กน้อยจากไม้โอ๊คและหนังที่มีอายุมาก มีความซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติ

โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพทรงพลัง โดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ ซับซ้อน เหมาะสำหัรบนักดื่มที่หลงใหลในรสชาติอันซับซ้อนของวิสกี้ ซึ่งเรียกได้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

Diplomatico Ambassador Rum

Diplomatico Ambassador Rum

 

สุดยอดเหล้ารัมที่สร้างสรรค์โดย Master Blend Tito Cordero ที่ได้รับรางวัล แอมบาสเดอร์ดาวเด่นจากคอลเลกชั่น Diplomatico ที่มีการบ่มในถังบูร์บงเก่าและปิดท้ายในถังเปโดรซีเมเนซเป็นเวลาสองปี ให้รสชาติที่มีความปราณีตและพิถีพิถันเป็นที่สุด

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นจากลูกเกดที่เข้มข้น แอปริคอตตุ๋น และน้ำตาลทรายแดงอ่อนๆ มีความสมดุลด้วยแทนนินไม้แห้ง รสชาติบ่งบอกถึงกล่องซิการ์ที่ผสานกับความเข้มข้นและเหนียวจากลูกเกด เนยอบเชย และกล้วยคาราเมลที่ราดด้วยคาราเมลนุ่มๆ กลิ่นหอมของไอจากรากชะเอมและน้ำตาลเข้ม เติมความหวานด้วยไซรัปน้ำตาลอ่อน

โดยรวมเป็นเหล้ารัมที่แสดงพลังของสรรสร้างจากถังที่ดี ซึ่งรุ่นนี้นั้นเป็นรัมที่บ่มอย่างดีและได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีเช่นกัน ความหอมหวาน ความกลมกล่อม ความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักดื่มที่รักในรสชาติของเหล้ารัมและต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ

Ben Nevis 5 Years Old 2015 – Adelphi Single Cask No.10715 Loch Fyne Whiskies

Ben Nevis 5 Years Old 2015 – Adelphi Single Cask No.10715 Loch Fyne Whiskies

 

 

แม้จะเป็นวิสกี้ที่มีอายุเพียงแค่ 5 ปี แต่กลับมารสชาติที่อร่อยมาก พร้อมกับส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ดี มีการกลั่นในถังเชอร์รี่และมีการบรรจุขวดที่สวยงามของ Adelphi ซึ่งเป็น Whisky Import จาก Netherlands
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมของอินทผาลัม, ลูกพลัม, ขิง, น้ำผึ้ง, โป๊ยกั๊ก, สตรอเบอร์รี่และแยมเชอร์รี่, หนังสัตว์, มาริไทม์และซอสถั่วเหลือง รสชาติจากน้ำเชื่อมแอปเปิ้ล, ลูกพลัม, อินทผลัม, น้ำผึ้ง, โหระพา, โป๊ยกั๊ก, ช็อกโกแลตนม, เนย, ชาเขียวและซีอิ๊ว ผสานกับสมุนไพรร้อนและผลไม้สีเข้มหวานเป็นรสชาติเสร็จสิ้น
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีกลิ่นหอมติดทนนาน โดยเฉพาะสำหรับวิสกี้อายุน้อยเพียงแค่ 5 ปี สำหรับรุ่นนี้ แต่กลับมีกลิ่นหวานจากผลไม้แช่อิ่มอย่างดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหมาะสำหรับการจิบในค่ำคืนวันอันแสนพิเศษพร้อมคุณพิเศษสำหรับคุณ

Antiquity Blue Premium Whisky

Antiquity Blue Premium Whisky

 

เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่ผลิตจากมอลต์อินเดียที่ดีที่สุดจากสก๊อตช์หายากที่ผสมผสานกันอย่างพิถีพิถันด้วยเกรนสปิริตในระดับพรีเมียม ผ่านกระบวนการกลั่นอย่างพิถีพิถันในหม้อทองแดง ได้วิสกี้ที่สุกและกลมกล่อมในถังไม้โอ๊คสีขาวนำเข้าผสมกับสก๊อตช์วิสกี้ระดับพรีเมียม
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นมอลต์ที่เด่นชัดและกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เข้มข้น พร้อมด้วยกลิ่นของพีทและเฮเทอร์ช่วยสร้างจินตนาการท่ามกลางธรรมชาติ ความแตกต่างที่ละเอียดอ่อนของมันมาจากส่วนประกอบที่ดีที่สุดจากส่วนผสม ให้รสชาติที่มีความนุ่มนวลและช่อดอกไม้ที่แสดงถึงสายเลือดของราชวงศ์ได้แบบมหัศจรรย์
โดยรวมเป็นวิสกี้หรูหรา ชั้นสูง มีความเป็นธรรมชาติ และได้วัตถุดิบมาเป็นส่วนผสมชั้นดีสำหรับวิสกี้รุ่นนี้ เหมาะสำหรับนักดื่มและนักสะสมที่ต้องการเสาะแสวงหารสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์หรูหราแบบสุดๆ

Tamnavulin – Glenlivet 1970 – The Stillman’s Dram

Tamnavulin – Glenlivet 1970 – The Stillman’s Dram

 

สุดยอดซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 16 ปีหายากจากโรงกลั่น Tamnavulin และได้รับการคัดเลือกให้เป็นวิสกี้รุ่นพิเศษ โดยถูกกลั่นในปี 1970 และบ่มด้วยการผสมผสานของถังเชอร์รี่เบอร์เบินและถังอื่นๆเป็นเวลายาวนานถึง 48 ปีก่อนจะบรรจุขวดในปี 2019
จุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงแต่กลับไม่มีความแห้งกรังของรสแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย มีความเป็นไม้โอ๊คขม แทนนิน ควันเล็กน้อย น้ำเกลือเล็กน้อย เผ็ดนำและค่อยจางลงในตอนท้าย ผสานกับรสวานิลลาอ่อน เป็นวิสกี้รสเผ็ดร้อนแรงอายุน้อยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
โดยรวมเป็นวิสกี้ชั้นดีที่แม้อายุในการผลิตจะน้อยแต่กลับให้รสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการรับประทานคู่กับอาหารประเภทตุ๋นอย่าง เนื้อตุ๋น ซุปตุ๋นยาจีน และพวกเนื้อแดงเป็นอย่างมากเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยของอาหารได้อย่างลงตัว

Benromach 40 Year Old 1978 Single Malt Scotch Whisky

Benromach 40 Year Old 1978 Single Malt Scotch Whisky

 

สุดยอดวิสกี้จากโรงกลั่น Benromach ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาค Speyside ของสก็อตแลนด์ โดยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในโรงกลั่นเพียงไม่กี่แห่งของโลกที่ยังคงใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมในการทำวิสกี้โดยไม่ใช่เครื่องจักรอัตโนมัติใดๆทั้งสิ้น โดยวิสกี้ตัวนี้ถูกผลิตจากถังหมักเชอรี่ฮอกส์เฮดอายุสี่ทศวรรษโดยมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 184 ขวดทั่วโลกเท่านั้น
จุดเด่นของวิสกี้ตัวนี้อยู่ที่กลิ่นหอมอันน่าอัศจรรย์และเพลิดเพลินไปกับกลิ่นอันหอมหวานของน้ำผึ้งและวานิลลา ผสมกับผลไม้สุก มะนาวเปรี้ยว บัตเตอร์สก็อตช์และขิงสด จิบลิ้มรสความหวานที่กลมกล่อมอย่างลงตัวด้วยพริกไทยเล็กน้อย กลิ่นนำจากโอ๊คผสมกับลูกแพร์และกีวีฉ่ำ, ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้นและยาสูบแห้ง, ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและกลิ่นพีทควันเล็กน้อย เป็นเอกลักษณ์ลงตัวเป็นอย่างมาก
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่แสดงถึงความพิถีพิถันของผู้ผลิตได้เป็นอย่างดี วิสกี้รสชาติหวานฉ่ำไม่รุนแรงของแอลกอฮอล์มากจนเกินไป เหมาะสำหรับเพลิดเพลินท่ามกลางบรรยากาศอันสนุกสนานในช่วงวันหยุดพร้อมกับคนพิเศษของคุณเป็นอย่างมาก

 

Glenturret 30 Year Old – Jaguar E-Type 60th Anniversary

Glenturret 30 Year Old – Jaguar E-Type 60th Anniversary

 

สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นวิสกี้รุ่นพิเศษที่ทำมาแบบจำนวนจำกัดระหว่าง Jaguar และ Glenturret เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ Glenturret ในอายุของแบรนด์ที่ครบ 60 ปี  ผลที่ได้จากผลิตภัณฑ์สุดเลอค่านี้ก้คือคือวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ ซึ่งเป็นวิสกี้ไม่ได้ระบุอายุไว้บนขวดแต่เมื่อพิจารณาแล้วถือว่าเป็นวิสกี้ที่มีอายุอย่างน้อยถึง 30 ปี เลยทีเดียว
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของชะเอม ผลไม้สีเข้ม และเครื่องเทศเนื่องจากการใช้ถังไม้เชอร์รี่ผสมกับไม้โอ๊คอเมริกันนั่นเอง รสชาติของชั้นผลไม้ท็อฟฟี่แอปเปิ้ลและคาราเมลเคลือบด้วยน้ำเชื่อมและเครื่องเทศหวาน เครื่องเทศไม้จะเร่งรสชาติได้อย่างรวดเร็วบนเพดานปาก ผสานกับความเผ็ดหวานและร้อนแรงอย่างหาที่สุดมิได้
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้เกรดพรีเมี่ยมแบบ Limited Edition เหมาะสำหรับนักสะสมวิสกี้ที่ต้องการหารสชาติอันซับซ้อนจากสวรรค์ที่มีความแปลกใหม่มาไว้ในครอบครองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Port Ellen 5th Release 25 Year

Port Ellen 5th Release 25 Year

 

สุดยอดวิสกี้ชั้นดีจากโรงกลั่มแห่งสก็อตแลนด์ที่มีความวิเศษสุดๆจาก Port Ellen ซึ่งเป็นแบรนด์วิสกี้ที่ขึ้นชื่อว่าได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์วิสกี้ชั้นดีมากมายหลากหลายรูปแบบอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับวิสกี้รุ่นที่ 5 เฉกเช่นตัวนี้
จุดเด่นอยู่ที่วิสกี้สีเหลืองทองที่มีเฉกออกทองคำเก่า ด้วยชาติที่ซับซ้อนและน่าเหลือเชื่อจากวิสกี้ที่มีชั้นแยกออกมาถึง 5 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อนของกลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรในโพรงจมูกและรสชาติช็อคโกแลตในตอนท้ายอีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีความสมดุลและกลมกลืนกันเป็นอย่างมากทั้งในด้านรสชาติและกลิ่น เหมาะสำหรับการดื่มในช่วงค่ำคืนอันยาวนานในฤดูร้อน เพื่อเพิ่มความร้อนแรงให้แก่คุณ

 

Royal Lochnagar Selected Reserve

Royal Lochnagar Selected Reserve

 

สุดยอดวิสกี้สัญชาติสก็อตแลนด์ที่คัดสรรค์มาเฉพาะโดยผลิตออกมาเพียงแค่ 3000 ขวดเท่านั้น ความนุ่มลึกถูกรังสรรค์บ่มเพาะขึ้นมาจากถังไม้เชอร์รี่ชั้นดี ซึ่งมีระดับแอลกอฮอล์อยู่ในปริมาณพอเหมาะพอควรที่ 43% เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดวิสกี้จากค่ายดังอย่าง Royal Lochnagar ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
จุดเด่นได้มาจากวัตถุดิบอย่าง Single Malt จากภูมิภาค Highland ทำให้เป็นวิสกี้สีเหลืองน้ำตาลทอง มีรสชาติของ แครนเบอร์รี่, แบล็คเคอร์แรนท์ และ น้ำตาลไหม้ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวจาก  ผิวส้ม, เครื่องหนังขัดเงา, อ้อย และ เครื่องเทศ อีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีรสชาติกลมกล่อม มีรสสัมผัสยาวนานคงค้างและขมปลาย มีกลิ่นของเชอร์รี่จางๆเคลือบความหวานไว้ เป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพเด่นชัด สร้างสรรค์ รุนแรง แต่เหมาะสำหรับการลิ้มละเลียดรสชาติแบบฉบับนักดื่มวิสกี้เช่นคุณ
error: Content is protected !!