Tamnavulin – Glenlivet 1970 – The Stillman’s Dram
สุดยอดซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 16 ปีหายากจากโรงกลั่น Tamnavulin และได้รับการคัดเลือกให้เป็นวิสกี้รุ่นพิเศษ โดยถูกกลั่นในปี 1970 และบ่มด้วยการผสมผสานของถังเชอร์รี่เบอร์เบินและถังอื่นๆเป็นเวลายาวนานถึง 48 ปีก่อนจะบรรจุขวดในปี 2019
จุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงแต่กลับไม่มีความแห้งกรังของรสแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย มีความเป็นไม้โอ๊คขม แทนนิน ควันเล็กน้อย น้ำเกลือเล็กน้อย เผ็ดนำและค่อยจางลงในตอนท้าย ผสานกับรสวานิลลาอ่อน เป็นวิสกี้รสเผ็ดร้อนแรงอายุน้อยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
โดยรวมเป็นวิสกี้ชั้นดีที่แม้อายุในการผลิตจะน้อยแต่กลับให้รสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการรับประทานคู่กับอาหารประเภทตุ๋นอย่าง เนื้อตุ๋น ซุปตุ๋นยาจีน และพวกเนื้อแดงเป็นอย่างมากเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยของอาหารได้อย่างลงตัว
Benromach 40 Year Old 1978 Single Malt Scotch Whisky
สุดยอดวิสกี้จากโรงกลั่น Benromach ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาค Speyside ของสก็อตแลนด์ โดยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในโรงกลั่นเพียงไม่กี่แห่งของโลกที่ยังคงใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมในการทำวิสกี้โดยไม่ใช่เครื่องจักรอัตโนมัติใดๆทั้งสิ้น โดยวิสกี้ตัวนี้ถูกผลิตจากถังหมักเชอรี่ฮอกส์เฮดอายุสี่ทศวรรษโดยมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 184 ขวดทั่วโลกเท่านั้น
จุดเด่นของวิสกี้ตัวนี้อยู่ที่กลิ่นหอมอันน่าอัศจรรย์และเพลิดเพลินไปกับกลิ่นอันหอมหวานของน้ำผึ้งและวานิลลา ผสมกับผลไม้สุก มะนาวเปรี้ยว บัตเตอร์สก็อตช์และขิงสด จิบลิ้มรสความหวานที่กลมกล่อมอย่างลงตัวด้วยพริกไทยเล็กน้อย กลิ่นนำจากโอ๊คผสมกับลูกแพร์และกีวีฉ่ำ, ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้นและยาสูบแห้ง, ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและกลิ่นพีทควันเล็กน้อย เป็นเอกลักษณ์ลงตัวเป็นอย่างมาก
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่แสดงถึงความพิถีพิถันของผู้ผลิตได้เป็นอย่างดี วิสกี้รสชาติหวานฉ่ำไม่รุนแรงของแอลกอฮอล์มากจนเกินไป เหมาะสำหรับเพลิดเพลินท่ามกลางบรรยากาศอันสนุกสนานในช่วงวันหยุดพร้อมกับคนพิเศษของคุณเป็นอย่างมาก
Glenturret 30 Year Old – Jaguar E-Type 60th Anniversary
สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นวิสกี้รุ่นพิเศษที่ทำมาแบบจำนวนจำกัดระหว่าง Jaguar และ Glenturret เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ Glenturret ในอายุของแบรนด์ที่ครบ 60 ปี ผลที่ได้จากผลิตภัณฑ์สุดเลอค่านี้ก้คือคือวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ ซึ่งเป็นวิสกี้ไม่ได้ระบุอายุไว้บนขวดแต่เมื่อพิจารณาแล้วถือว่าเป็นวิสกี้ที่มีอายุอย่างน้อยถึง 30 ปี เลยทีเดียว
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของชะเอม ผลไม้สีเข้ม และเครื่องเทศเนื่องจากการใช้ถังไม้เชอร์รี่ผสมกับไม้โอ๊คอเมริกันนั่นเอง รสชาติของชั้นผลไม้ท็อฟฟี่แอปเปิ้ลและคาราเมลเคลือบด้วยน้ำเชื่อมและเครื่องเทศหวาน เครื่องเทศไม้จะเร่งรสชาติได้อย่างรวดเร็วบนเพดานปาก ผสานกับความเผ็ดหวานและร้อนแรงอย่างหาที่สุดมิได้
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้เกรดพรีเมี่ยมแบบ Limited Edition เหมาะสำหรับนักสะสมวิสกี้ที่ต้องการหารสชาติอันซับซ้อนจากสวรรค์ที่มีความแปลกใหม่มาไว้ในครอบครองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
Port Ellen 5th Release 25 Year
สุดยอดวิสกี้ชั้นดีจากโรงกลั่มแห่งสก็อตแลนด์ที่มีความวิเศษสุดๆจาก Port Ellen ซึ่งเป็นแบรนด์วิสกี้ที่ขึ้นชื่อว่าได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์วิสกี้ชั้นดีมากมายหลากหลายรูปแบบอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับวิสกี้รุ่นที่ 5 เฉกเช่นตัวนี้
จุดเด่นอยู่ที่วิสกี้สีเหลืองทองที่มีเฉกออกทองคำเก่า ด้วยชาติที่ซับซ้อนและน่าเหลือเชื่อจากวิสกี้ที่มีชั้นแยกออกมาถึง 5 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อนของกลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรในโพรงจมูกและรสชาติช็อคโกแลตในตอนท้ายอีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีความสมดุลและกลมกลืนกันเป็นอย่างมากทั้งในด้านรสชาติและกลิ่น เหมาะสำหรับการดื่มในช่วงค่ำคืนอันยาวนานในฤดูร้อน เพื่อเพิ่มความร้อนแรงให้แก่คุณ
Royal Lochnagar Selected Reserve
สุดยอดวิสกี้สัญชาติสก็อตแลนด์ที่คัดสรรค์มาเฉพาะโดยผลิตออกมาเพียงแค่ 3000 ขวดเท่านั้น ความนุ่มลึกถูกรังสรรค์บ่มเพาะขึ้นมาจากถังไม้เชอร์รี่ชั้นดี ซึ่งมีระดับแอลกอฮอล์อยู่ในปริมาณพอเหมาะพอควรที่ 43% เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดวิสกี้จากค่ายดังอย่าง Royal Lochnagar ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
จุดเด่นได้มาจากวัตถุดิบอย่าง Single Malt จากภูมิภาค Highland ทำให้เป็นวิสกี้สีเหลืองน้ำตาลทอง มีรสชาติของ แครนเบอร์รี่, แบล็คเคอร์แรนท์ และ น้ำตาลไหม้ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวจาก ผิวส้ม, เครื่องหนังขัดเงา, อ้อย และ เครื่องเทศ อีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีรสชาติกลมกล่อม มีรสสัมผัสยาวนานคงค้างและขมปลาย มีกลิ่นของเชอร์รี่จางๆเคลือบความหวานไว้ เป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพเด่นชัด สร้างสรรค์ รุนแรง แต่เหมาะสำหรับการลิ้มละเลียดรสชาติแบบฉบับนักดื่มวิสกี้เช่นคุณ
Cragganmore Single Cask 43 Years old Single Malt
สุดยอดวิสกี้แห่งสก็อตแลนด์จากภูมิภาค Speyside จากโรงกลั่น Lagavulin แห่งแคร็กแกนมอร์ที่มีความงดงามมาก โดยถูกขนานนามว่าเป็น “สิ่งที่ดีที่สุดของสเปย์ไซด์” เลยทีเดียว กระบวนการผลิตของเจ้าวิสกี้รุ่นนี้ได้ถูกดึงมาจากก้นไม้โอ๊คยุโรปเพียงตัวเดียวหลังจากผ่านไป 43 ปีอย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีการบรรจุขวดแรกในปี 2514 และมีการผลิตเพียงแค่ 474 ขวด เท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก Single Malt ชั้นเลิศที่ถูกผลิตอยู่ในถังไม้โอ๊ต รสสัมผัสที่มีความลึกลับซับซ้อนเข้มข้นและหายากเหมาะสำหรับนักสะสมและนักดื่มวิสกี้ตัวยงแบบสุดๆ
โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าเป็นของสะสมราคาแพงที่มีความหายากแบบสุดๆจากโรงกลั่นแห่งนี้ ด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้เวลายาวนานถึง 43 ปีจึงได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาท่ามกลางความปราณีตพิถีพิถันแบบสุดๆ จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง
Tullibardine The Murray Malt Whisky Bourbon Cask
สก็อตวิสกี้ชั้นดีแห่งสก็อตแลนด์จากภูมิภาค Highland ที่เป็นซิงเกิลมอลต์แท้แบบ 100% เลยทีเดียว โดยวิสกี้ตัวนี้นั้นถูกกลั่นครั้งแรกในปี 2547 โดยผ่านกระบวนการผลิตจากการสุกในถังบูร์บองชนิดเติมครั้งแรกและผ่านถังกรองแบบไม่แช่เย็นในครั้งที่สองเพื่อให้ได้รสชาติวิสกี้ที่ดีที่สุด
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นแรกเริ่มของผลไม้แสนหวาน ตามมาด้วยกล้วยสุกและลูกพีชหั่นแว่นผสานกับกลิ่นหอมของกาแฟนมในพื้นหลัง รสสัมผัสที่มีความเข้มข้นและหวานติดลิ้น และพัฒนาเพิ่มเติมจากรสชาติของเครื่องเทศวานิลลา ผลไม้เมืองร้อนเคี้ยวหนึบ และเสร็จสิ้นด้วยรสชาติของอบเชย ชะเอมเทศ และโอ๊คแทนนิน
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้รสชาติกลมกล่อม มีบุคลิกภาพที่มีความมั่นใจ ร้อนแรง และหรูหรา เหมาะสำหรับการรับประทานในช่วงฤดูร้อนยามค่ำคืนอันยาวนานเพื่อสร้างบรรยากาศได้อย่างน่าอัศจรรย์
Cambus 1979 Douglas Laing XOP Black
สุดยอดวิสกี้แห่งภูมิภาค Lowlands โดยวิสกี้สก๊อตรุ่นนี้มีอายุ 40 ปี มีกระบวนการผลิตที่น่าทึ่ง ได้ถูกวางลงที่โรงกลั่น Cambus ในเดือนเมษายนปี 1979 และนำมาบรรจุขวดโดย Douglas Laing ในเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา เป็นรายการที่สามในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Xtra Old Particular Black Series ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อถังเดี่ยวโบราณที่ดีที่สุดและหายากที่สุดที่เคยมีมา
จุดเด่นคือโดดเด่นเป็นวิสกี้ที่ผ่านกรรมวิธีการสุกในฮอกส์เฮดแบบเติม บรรจุขวดที่แอลกอฮอล์สูงถึง 53.5% และวางขายบรรจุในกล่องกำมะหยี่สีดำลายนูนที่หรูหรา พร้อมลายเซ็นโดย Fred Laing และ Cara Laing อีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ของสะสมหายากจากแบรนด์ดังอย่าง Douglas อย่างมากเลยทีเดียว ด้วยกลิ่นที่ระเบิดด้วยข้าวบาร์เลย์พีทและน้ำตาลทรายแดง ในเพดานปากสัมผัสได้ถึงความเหลวไหล เครื่องเทศ และหนังที่เคี้ยวด้วยไอโอดีนและควันที่ตกค้าง สุดบอดรสชาติซับซ้อนที่หาตัวจับยาก
Darkness 8 Year Old Whisky
สุดยอดซิงเกิลมอลต์สก๊อตวิสกี้อายุ 8 ปีที่ได้รับการบ่มในถังเบอร์เบิร์นเก่า โดยมีการกลั่นผสมในถังอ็อกเทฟ Oloroso Sherry ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษอย่างน้อยสามเดือน นอกจากนี้ยังมีกรรมวิธีใช้การกรองแบบไม่แช่เย็นและบรรจุขวดโดยไม่ใส่สีเพิ่มเติมอื่นๆ สำหรับ Darkness 8 Year Old นั้นเป็นรุ่นต่อเนื่องจากจากขวดรุ่น Limited Edition ที่มีความอร่อยของเชอรี่รอคุณอยู่มากมาย
จุดเด่นอยู่ที่เปลือกส้มหวาน ช็อคโกแลตถั่วลิสง เครื่องเทศปรุงอาหารที่อบอุ่น และเชอร์รี่แห้งบางส่วน รสสัมผัสบนเพดานปากอยู่ที่ บิสกิต Amaretti, ขนมปังปิ้งชิ้นเล็กชิ้นน้อย, ลูกเกดและพรุนที่ทรงพลัง และรสสัมผัสของไม้โอ๊คที่เป็นดินเล็กน้อย เสร็จสิ้นแล้วนั้นได้รสชาติของความมันและมีควันเล็กน้อยดยมีพื้นหลังเป็นรสช็อกโกแลตยังคงอยู่
โดยรวมเป็นวิสกี้เข้มข้นหอมมันเย้ายวนใจ ที่เหมาะแก่การรับประทานอาหารอย่างซุปร้อนๆหรืออาหารประเภทสเต็กเป็นอย่างมาก เหมาะมากสำหรับการดื่มเนื่องในโอกาสพิเศษแบบสุดๆ
Lauder’s 15 Years Old
ด้วยวิสกี้อายุ 15 ปีจาก LAUDER ผสมผสานกับวิสกี้จากภูมิภาคไฮแลนด์และ Speyside ของสกอตแลนด์ที่บ่มเป็นเวลา 15 ปีในถังบูร์บงและถังเชอร์รี่ กรรมวิธีที่คัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ชั้นดีที่สุดของ Lauder ด้วยความเข้มข้นที่นุ่มนวลและสีสันที่เข้มข้นของมอลต์อายุ 15 ปี ทำให้เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและน่าลิ้มลองอย่างแท้จริง
จุดเด่นอยู่ที่รสชาติของเครื่องเทศฟรุตเค้กที่นุ่มนวลโอบรับกับความหวานที่กลมกล่อมทำให้เป็นสุดยอดเครื่องดื่มวิสกี้จาก
บริเตนใหญ่ที่เป็นสุดยอดแบบสุดๆ
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้ชั้นเลิศที่มีความหรูหราหาตัวจับยาก เหมาะสำหรับการรับประทานเพื่อลิ้มลองรสชาติท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่นโรแมนติก เหมาะสำหรับการรับประทานคู่กับอาหารร้อนๆอย่าง ซุปตุ๋นยาจีน, สตูว์เนื้อ และ เสต็กเนื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง
Posts navigation